วันนี้ MediaTek เปิดตัวชิปเซ็ตเรื อธงรุ่นล่าสุด MediaTek Dimensity 9400e ซึ่งมาพร้อมสถาปัตยกรรม All Big Core สุดล้ำ โดย Dimensity 9400e คือผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม ชิปเซ็ตระดับเรือธงของ MediaTek ที่ออกแบบมาเพื่ อเสนอทางเลือกและฟังก์ชันที่ หลากหลายยิ่งขึ้นให้แก่ผู้ผลิ ตอุปกรณ์ พร้อมประสิทธิภาพและการจั ดการพลังงานที่ยอดเยี่ยม รองรับการประมวลผล AI การเชื่ อมต่อ การถ่ายภาพ และการเล่นเกมอย่างเหนือชั้ นสำหรับผู้ใช้งาน
.
ดร. Yenchi Lee ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มธุรกิ จ Wireless Communications ของ MediaTek กล่าวว่า “MediaTek Dimensity 9400e เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ มแพลตฟอร์มมือถือระดับเรื อธงของเรา ผู้ผลิตอุปกรณ์และผู้บริโภคจึ งสามารถเลือกสรรประสบการณ์ การใช้งานระดับเรือธงได้มากขึ้ นกว่าที่เคย เรายังคงมุ่งมั่นสร้ างมาตรฐานใหม่ด้านประสิทธิ ภาพระดับสูง การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิ ภาพ และขีดความสามารถด้าน AI ด้ วยการผสานรวมฮาร์ดแวร์อันทรงพลั งเข้ากับเทคโนโลยีล้ำหน้าจาก MediaTek”
MediaTek Dimensity 9400e ผลิตด้วยเทคโนโลยีระดับ 4nm รุ่นที่สามของ TSMC และใช้ สถาปัตยกรรม All Big Core ซึ่งประกอบด้วย Cortex-X4 Super Core จำนวน 4 คอร์ซึ่งมีความเร็ วสูงสุด 3.4GHz และ Cortex-A720 Big Core จำนวน 4 คอร์ที่ความเร็ว 2.0GHz สถาปัตยกรรมอันทรงพลังนี้ รองรับการทำงานแบบมัลติทาสก์ และแอปพลิเคชันที่ซับซ้อนได้อย่ างราบรื่น พร้อมคงประสิทธิภาพด้านพลั งงานไว้อย่างยอดเยี่ยม ชิปเซ็ตนี้ยังมาพร้อม GPU รุ่น Immortalis-G720 ระดับเรื อธงแบบ 12-core ซึ่งเป็นขุมพลั งด้านกราฟิกให้แก่ผู้ใช้สมาร์ ทโฟนและเหล่าเกมเมอร์ อีกทั้งยังรองรับเทคโนโลยีฮาร์ ดแวร์ Mobile Ray Tracing ซึ่งมอบประสิทธิภาพสุ ดล้ำและให้เอฟเฟกต์ Global Illumination ระดับคอนโซล เพื่อยกระดับความสมจริ งและประสบการณ์เล่นเกมอย่างเหนื อชั้น
.
เทคโนโลยี MediaTek HyperEngine ใน Dimensity 9400e สามารถมอบประสบการณ์ การเล่นเกมที่ลื่นไหล ต่อเนื่อง และตอบสนองรวดเร็ว พร้อมรองรับ MediaTek Adaptive Gaming Technology (MAGT 2.0) ที่ช่วยทำ Performance Scheduling ได้แบบเรียลไทม์ ระหว่างชิปเซ็ตและแอปพลิเคชั นเกม ส่งผลให้การใช้งานเฟรมเรตสูง ๆ มีความเสถียรเป็นเลิศ พร้อมลดการใช้พลังงาน นอกจากนี้ Dimensity 9400e ยังรองรับ MediaTek Frame Rate Converter (MFRC 2.0+) ซึ่งช่วยลดการใช้พลั งงานได้สูงสุดถึง 40% เมื่อใช้ งาน Dimensity 9400e ยังรองรับ MediaTek NeuroPilot SDK เวอร์ชันล่าสุด ซึ่งช่วยให้การให้บริ การและแอปพลิเคชันที่ใช้ Generative AI สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และตรงตามความต้องการของแต่ละบุ คคล โดยชิปเซ็ตนี้มีเทคโนโลยี Enhanced Inference Decoding (SpD+) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิ ภาพในการประมวลผลโมเดลภาษาขนาดใ หญ่ (LLM) รองรับทั้ง LLM และ SLM ที่ใช้งานได้บนอุปกรณ์โดยตรง ได้แก่ DeepSeek-R1-Distill, Qwen1.5B, Llama7B, Llama8B, Gemini Nano ที่รองรับมัลติโหมด, LLaVA-1.5 7B และอื่น ๆ อีกมาก
.
MediaTek Dimensity 9400e ยังมาพร้อมกับ ISP แบบ RAW 18-bit ระดับเรือธง รองรับเอ็นจิ้นวิดีโอ Semantic Segmentation ที่ใช้ AI ซึ่งช่ วยแบ่งภาพออกเป็น 16 เลเยอร์ และรองรับระบบตัดเสี ยงรบกวนแบบไดนามิกสูงสำหรั บการบันทึกเสียงจากไมโครโฟน 3 ตัว และด้วยเทคโนโลยีการบันทึ กภาพและเสียงขั้นสูงดังกล่าว ชิปเซ็ตจึงสามารถสร้างเอฟเฟกต์ วิดีโอระดับมืออาชีพสำหรับผู้ ใช้งานที่ชื่นชอบการถ่ายภาพด้ วยสมาร์ทโฟน
.
คุณสมบัติเด่นของชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 9400e ได้แก่
– รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth ระหว่างสมาร์ทโฟนในระยะสายตาได้ ไกลถึง 5 กิโลเมตร
– รองรับ Sub-6GHz แบบ 4CC-CA (4 Carrier Aggregation) ด้วยความเร็วดาวน์ โหลดสูงสุดตามทฤษฎีที่ 7Gbps
– รองรับ Wi-Fi 7 แบบ Tri-band Concurrency (สตรีมข้อมูลได้ 5 การสตรีม) ด้วยความเร็วส่งข้อมูลสูงสุด (theoretical) ที่ 7.3Gbps
– เทคโนโลยีประหยัดพลังงาน MediaTek 5G UltraSave 3.0
– รองรับการใช้งานแบบ Dual-SIM Dual-Active หลายโหมดพร้อมกัน
.
คาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายสมาร์ ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 9400e ภายในเดือนนี้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิ ปเซ็ต Dimensityได้ที่: https://www.mediatek.cn/ products/smartphones/ dimensity-5g