การเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ เรื่องสุขภาพในชีวิตประจำวัน สามารถสร้างความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ได้ แค่เริ่มจากการปรับพฤติกรรมด้านสุขภาพให้ดีขึ้นในแต่ละวัน ก็สามารถมีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้นได้ ล่าสุด ซัมซุงเตรียมเปิดตัว Galaxy Watch รุ่นใหม่ ที่จะเข้ามาช่วยสร้างนิสัยเพื่อสุขภาพที่ดีได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ใหม่1มากมายที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงการนอนหลับ สุขภาพหัวใจ การออกกำลังกาย และโภชนาการ ได้แก่
- Bedtime Guidance2 ช่วยปรับพฤติกรรมก่อนนอนเพื่อการพักผ่อนที่มีประสิทธิภาพ
- Vascular Load3 ที่ตรวจวัดความเครียดของหลอดเลือดหัวใจขณะนอนหลับ
- Running Coach4 ช่วยวางแผนการฝึกซ้อมวิ่งอย่างมีประสิทธิภาพ
- Antioxidant Index5 วัดระดับแคโรทีนอยด์ในร่างกายเพื่อส่งเสริมการชะลอวัยอย่างมีสุขภาพดี
ฟีเจอร์ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของ One UI 8 Watch ซึ่งจะมาพร้อมกับ Galaxy Watch รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เตรียมเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้ และก่อนถึงวันเปิดตัว ผู้ใช้บางกลุ่มยังสามารถทดลองใช้งานฟีเจอร์เหล่านี้ได้ก่อนแบบจำนวนจำกัดผ่านโปรแกรมเบต้า6
ความสำคัญของการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ใน Galaxy Watch
ซัมซุงพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ เพื่อให้ Galaxy Watch ช่วยสร้างพฤติกรรมเพื่อสุขภาพที่ดีในชีวิตประจำวัน แม้จะเป็นเรื่องท้าทายและต้องใช้เวลาในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม แต่การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะค่อย ๆ สะสมและเห็นผลอย่างมีความหมายในระยะยาว
เช่น การรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพอาจไม่ส่งผลในทันที แต่เมื่อเวลาผ่านไป อาจก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงต่อร่างกาย เช่นเดียวกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้มีสุขภาพดีอาจยังไม่เห็นผลทันที แต่เมื่อทำต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงบวกทั้งต่อร่างกายและจิตใจ ซึ่งฟีเจอร์ใหม่ใน Samsung Health ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างนิสัยเพื่อสุขภาพที่ดี ด้วยการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ และกระตุ้นให้ผู้ใช้รักษาพฤติกรรมด้านสุขภาพที่ดีอย่างต่อเนื่อง ผ่านการให้รางวัลหรือมีสัญญาณเตือน รวมถึงแสดงให้เห็นข้อมูลแบบทันที
ดร.ฮอน แพ็ก รองประธานอาวุโส และหัวหน้าทีม Digital Health Mobile eXperience บริษัทซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าวว่า “การนอนหลับเป็นรากฐานสำคัญของการมีสุขภาพดี เพราะการนอนส่งผลต่อทั้งสุขภาพกาย สุขภาพจิต ความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง รวมถึงประสิทธิภาพในการทำงาน ซึ่งเราเชื่อว่า Galaxy Watch จะเป็นอุปกรณ์ที่สามารถมอบข้อมูลเชิงลึกด้านสุขภาพแบบองค์รวมได้ โดยเฉพาะการนอนหลับ ซึ่งเป็นข้อมูลที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพที่มีความหมายในชีวิตประจำวัน สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของซัมซุงในการเสริมพลังให้ผู้คนใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพที่ดีขึ้น ผ่านการดูแลสุขภาพเชิงรุกและการจัดการสุขภาพแบบองค์รวม”
คำแนะนำในการนอน (Bedtime Guidance)
การนอนหลับพักผ่อนอย่างมีคุณภาพเพียงคืนเดียวก็สามารถส่งผลดีต่อสุขภาพได้ทันที ช่วยกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเชิงบวก และนำไปสู่สุขภาพที่ดีขึ้นในวันถัดไป ซึ่งทั้งหมดเริ่มต้นจากการเข้านอนอย่างสม่ำเสมอและในเวลาที่เหมาะสม
ซัมซุงมุ่งมั่นพัฒนาเครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับการนอนอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์รูปแบบการนอน การฝึกนอนหลับ และการปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมต่อการนอน รวมถึงฟีเจอร์ตรวจจับสัญญาณของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ7 ซึ่งเป็นหนึ่งในความผิดปกติของการนอน เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถดูแลสุขภาพได้อย่างเชิงรุก
นอกจากนี้ ซัมซุงยังได้เพิ่มเครื่องมือใหม่เพื่อการนอนที่ดีขึ้น ผ่านการแนะนำเวลานอนที่เหมาะสมตามไลฟ์สไตล์และรูปแบบการนอน พร้อมส่งการแจ้งเตือนเพื่อกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยฟีเจอร์นี้จะวิเคราะห์รูปแบบการนอนในช่วง 3 วันที่ผ่านมา เพื่อประเมิน Sleep Pressure และ Circadian Rhythm ก่อนคำนวณช่วงเวลานอนที่ดีที่สุด เพื่อให้ผู้ใช้ตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่นในวันถัดไป ฟีเจอร์นี้จะมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการปรับเวลานอนให้สม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่มีการนอนผิดเวลา เช่น เข้านอนดึกติดต่อกันหลายวัน หรือมีเวลานอนต่างกันระหว่างวันธรรมดาและวันหยุด ระบบจะนำปัจจัยเหล่านี้มาคำนวณเพื่อเพื่อให้ผู้ใช้ได้นอนพักผ่อนอย่างเพียงพอ
วัดความเครียดด้วย Vascular Load
การนอนหลับเป็นหน้าต่างสำคัญที่สะท้อนถึงสุขภาพโดยรวม Galaxy Watch จึงใช้ช่วงเวลานี้ในการตรวจวัด Vascular Load หรือปริมาณความเครียดที่เกิดขึ้นกับระบบหลอดเลือดในขณะนอนหลับ
ระบบหลอดเลือดมีหน้าที่ลำเลียงเลือดไปทั่วร่างกาย เพื่อนำออกซิเจนและสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์ รวมถึงขจัดของเสียออกจากร่างกาย จึงเป็นหนึ่งในตัวบ่งชี้สำคัญของสุขภาพหัวใจที่ดี โดยปกติแล้ว ระหว่างการนอนหลับ ความเครียดในระบบหลอดเลือดควรลดลงตามธรรมชาติ แต่หากมีความผันผวนมากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดในระยะยาว และเพียงแค่ผู้ใช้สวม Galaxy Watch ขณะนอนหลับ อุปกรณ์จะตรวจวัดค่า Vascular Load ให้โดยอัตโนมัติ พร้อมให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความเครียดที่เกิดขึ้นในระบบหลอดเลือด
นอกจากนี้ สุขภาพยังเป็นเรื่องที่เชื่อมโยงกันทุกด้าน ทำให้ฟีเจอร์นี้สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยด้านไลฟ์สไตล์อื่น ๆ เช่น การนอนหลับ การออกกำลังกาย และความเครียด เพื่อช่วยให้คุณดูแลสุขภาพได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น และสร้างพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพในระยะยาว
Running Coach ช่วยวางแผนการฝึกซ้อมได้อย่างมั่นใจ
แม้ว่าการนอนหลับจะเป็นช่วงเวลาสำคัญในการฟื้นฟูและดูแลสุขภาพ แต่การดูแลสุขภาพในช่วงที่ร่างกายเคลื่อนไหวหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน การวิ่งถือเป็นกิจกรรมออกกำลังกายพื้นฐานที่เข้าถึงได้ง่ายและเป็นที่นิยมทั่วโลก และซัมซุงเองก็ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนนักวิ่งมาโดยตลอด ผ่านฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ช่วยให้ทุกคนสามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมมุ่งสู่เป้าหมายด้านสุขภาพได้อย่างมั่นใจ
นักวิ่งจำนวนไม่น้อยประสบปัญหาอาการบาดเจ็บจากการเร่งฝีเท้ามากเกินไป หรือออกกำลังกายไม่เหมาะสมกับศักยภาพของตนเอง ฟีเจอร์ Running Coach ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักวิ่งฝึกซ้อมได้อย่างปลอดภัย ด้วยโปรแกรมที่ปรับระดับความเข้มข้นอย่างเหมาะสมและลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เริ่มต้น
ฟีเจอร์ Running Coach ใหม่ล่าสุดนี้ ช่วยสร้างแรงจูงใจและให้คำแนะนำแบบเรียลไทม์ โดยจะสร้างโปรแกรมฝึกซ้อมเฉพาะบุคคลตามระดับความฟิตของแต่ละคน ทำให้สามารถบรรลุเป้าหมายในการวิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพียงใส่ Galaxy Watch และวิ่งเป็นเวลา 12 นาที ระบบจะวิเคราะห์สมรรถภาพและประเมินระดับการวิ่งช่วงคะแนน 1–10 พร้อมออกแบบแผนฝึกซ้อมอย่างละเอียดสำหรับเป้าหมายต่าง ๆ เช่น วิ่ง 5 กิโลเมตร, 10 กิโลเมตร, ฮาล์ฟมาราธอน หรือฟูลมาราธอน และเมื่อฝึกซ้อมตามแผนและทำได้สำเร็จ จะได้เลื่อนระดับ และปลดล็อกความท้าทายใหม่ในการวิ่งครั้งถัดไป
Antioxidant Index ตัวช่วยเสริมไลฟ์สไตล์ชะลอวัย
เมื่อเรามองสุขภาพแบบองค์รวม เรื่องของอายุและการส่งเสริมการชะลอวัยอย่างมีสุขภาพดี ก็เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะพฤติกรรมบางอย่าง เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ การสัมผัสแสงแดดมากเกินไป ความเครียด และการพักผ่อนไม่เพียงพอ ล้วนเป็นปัจจัยที่เร่งกระบวนการชราภาพ โดยการเพิ่มปริมาณอนุมูลอิสระในร่างกาย ซึ่งอนุมูลอิสระเหล่านี้จะทำลายเซลล์และเร่งความเสื่อมของร่างกาย ใขณะที่สารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสารอาหารที่พบได้ในอาหารเพื่อสุขภาพหลายชนิด คือโมเลกุลที่ช่วยต่อต้านและลดปริมาณอนุมูลอิสระในร่างกาย จึงมีบทบาทสำคัญในการป้องกันโรคเรื้อรังและส่งเสริมการชะลอวัยอย่างมีสุขภาพดี
Galaxy Watch มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ครั้งแรกในอุตสาหกรรม ที่สามารถวัดระดับแคโรทีนอยด์ได้ภายในเวลาเพียง 5 วินาที ด้วยเซ็นเซอร์ BioActive ที่ทำงานด้วยแสง ใช้ Galaxy Watch ในการวัดระดับแคโรทีนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบได้ในผักและผลไม้สีเขียวและสีส้ม และสะสมอยู่ในผิวหนัง โดยข้อมูลที่ได้จะสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เช่น การดื่มน้ำแครอทสามารถทำให้ค่าดัชนีนี้เปลี่ยนแปลงได้ ช่วยสร้างแรงจูงใจให้ผู้ใช้รักษานิสัยเพื่อสุขภาพที่ดีต่อไป
สุขภาพดีเกิดจากการเปลี่ยนแปลงก้าวเล็ก ๆ และทำต่อเนื่องจนกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นด้วยฟีเจอร์จาก Galaxy Watch ช่วยสร้างแรงจูงใจไปสู่เป้าหมายด้านสุขภาพได้ในชั่วข้ามคืน
[1] Samsung Health ฟีเจอร์ดูแลสุขภาพทั่วไปและด้านฟิตเนสเท่านั้น ไม่สามารถตรวจหา วินิจฉัย หรือรักษาอาการทางการแพทย์หรือโรคเกี่ยวกับการนอนหลับ ข้อมูลที่วัดได้มีไว้สำหรับการอ้างอิงส่วนบุคคลเท่านั้น กรุณาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ
ฟีเจอร์ Vascular Load, Running Coach และ Antioxidant Index รองรับการใช้งานบนระบบปฏิบัติการ Android 10 ขึ้นไป โดยต้องใช้งานผ่านแอป Samsung Health เวอร์ชัน 6.30.2 หรือใหม่กว่า ซึ่ง Vascular Load และ Antioxidant Index เป็นฟีเจอร์ Labs ที่ผู้ใช้สามารถทดลองใช้ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ หากผู้ใช้ไม่ต้องการทดลองใช้ฟีเจอร์เหล่านี้ สามารถปิดการใช้งาน Samsung Health
[2] คำแนะนำสำหรับการนอนมีให้ใช้งานบนระบบปฏิบัติการ Android 11 ขึ้นไป และต้องใช้แอป Samsung Health เวอร์ชัน 6.30.2 ขึ้นไป โดยฟีเจอร์นี้อ้างอิงจากการวิเคราะห์วงจรชีวิตประจำวัน (circadian rhythm) และการนอนหลับ (sleep pressure) ของผู้ใช้เป็นเวลา 3 วัน
[3] ในการวัดค่า Vascular Load จำเป็นต้องสวมใส่ Galaxy Watch ขณะนอนหลับอย่างน้อย 3 วันในช่วง 14 วันที่ผ่านมา โดยฟีเจอร์ดังกล่าวองรับการใช้งานบนอุปกรณ์ Galaxy Watch Ultra หรือ Galaxy Watch Series ในรุ่นต่อไปเท่านั้น
[4] ในการใช้โปรแกรมโค้ชวิ่ง ผู้ใช้จำเป็นต้องทำการทดสอบระดับการวิ่งก่อนเริ่มโปรแกรมโค้ช โดยฟีเจอร์ดังกล่าวรองรับการใช้งานบนอุปกรณ์ Galaxy Watch 7 ขึ้นไป
[5] วิธีการวัด ให้วางปลายกลางนิ้วของคุณบนเซ็นเซอร์ที่ด้านหลังของนาฬิกาและกดค้างไว้เป็นเวลา 5 วินาที เพื่อให้ดัชนีสารต้านอนุมูลอิสระสามารถวัดได้โดยใช้นิ้วใดก็ได้ โดยแนะนำให้ใช้นิ้วหัวแม่มือในการวัดเพื่อผลลัพธ์ที่แม่นยำที่สุด การวัดซ้ำเนื่องจากพื้นผิวผิวหนังที่ไม่เรียบอาจทำให้ผลลัพธ์ไม่แม่นยำได้ โดยฟีเจอร์ดังกล่าวรองรับการใช้งานบนอุปกรณ์ Galaxy Watch Ultra หรือ Galaxy Watch Series ในรุ่นต่อไปเท่านั้น
[6] ผู้ใช้ Galaxy Watch ในประเทศเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาสามารถเข้าร่วมโปรแกรมเบต้าได้
[7] ฟีเจอร์ตรวจจับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) เป็นแอปพลิเคชันทางการแพทย์ประเภท OTC (over-the-counter) ที่ทำงานด้วยซอฟต์แวร์เพียงอย่างเดียวบน Samsung Galaxy Watch และสมาร์ทโฟนที่รองรับ ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อช่วยตรวจจับสัญญาณของภาวะหยุดหายใจขณะหลับแบบอุดกั้นระดับปานกลางถึงรุนแรง ผ่านการตรวจจับความผิดปกติในการหายใจที่เกิดขึ้นในผู้ใช้งานอายุ 22 ปีขึ้นไป ภายในระยะเวลาเฝ้าสังเกต 2 คืน และใช้ตามความต้องการของผู้ใช้ ฟีเจอร์นี้ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะหยุดหายใจขณะหลับแล้ว และไม่ควรใช้เพื่อทดแทนการวินิจฉัยหรือการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ข้อมูลจากอุปกรณ์นี้ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อช่วยในการวินิจฉัยโรคเกี่ยวกับการนอนหลับ โดยความพร้อมให้บริการอาจแตกต่างกันไปตามประเทศ เครือข่าย รุ่นของอุปกรณ์ หรือสมาร์ทโฟนที่จับคู่ใช้งาน