AIS เดินหน้าสานต่อภารกิจพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเพื่อคนไทย ภายใต้แนวคิด “AI for Sustainable Nation” ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีและโครงข่าย 5G อัจฉริยะที่ได้รับรางวัลระดับโลก เข้ามาเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะในพื้นที่ยุทธศาสตร์อย่างภาคตะวันออก ซึ่งเป็นเครื่องยนต์หลักในการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ (No.1 Economic Growth) ของไทย ทั้งในภาคอุตสาหกรรมและภาคการท่องเที่ยว โดย AIS ได้โชว์ศักยภาพเครือข่าย 5G ที่แข็งแกร่งและครอบคลุม เพื่อยกระดับประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวให้ไร้รอยต่อ พร้อมผลักดันให้ภาคตะวันออก โดยเฉพาะพื้นที่เขาชีจรรย์ ก้าวสู่การเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวและอีเวนต์ระดับโลกแห่งใหม่

“เครือข่ายต้องแข็งแกร่ง” หัวใจหลักของการท่องเที่ยวภาคตะวันออก

ภาคตะวันออกถือเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง โดยเฉพาะ จังหวัดชลบุรี ซึ่งสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นอันดับ 2 ของประเทศรองจากภูเก็ต โดยมีรายได้กว่า 3.6 แสนล้านบาทต่อปี ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการเป็นศูนย์กลางของการจัด Big Event & Festival ที่สามารถสร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ได้ถึง 15-20%

คุณสมภพ กิตติวิรุฬห์วัฒน์ หัวหน้างานปฏิบัติการภูมิภาค – ภาคตะวันออก AIS กล่าวว่า “หัวใจสำคัญของการรองรับนักท่องเที่ยวและอีเวนต์ขนาดใหญ่ คือโครงข่ายการสื่อสารที่แข็งแกร่งและมีเสถียรภาพ AIS จึงให้ความสำคัญกับการขยายและพัฒนาเครือข่าย 5G ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวของภาคตะวันออก ไม่ว่าจะเป็นเมืองหลัก แหล่งท่องเที่ยวชุมชน หรือแม้แต่ในพื้นที่ Unseen ต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่านักท่องเที่ยวและคนในพื้นที่จะสามารถติดต่อสื่อสารได้อย่างราบรื่นทุกที่ทุกเวลา”

AIS ได้พิสูจน์ความพร้อมของเครือข่ายผ่านการสนับสนุนเทศกาลและอีเวนต์สำคัญๆ ของภาคตะวันออกอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น:

  • Pattaya International Fireworks Festival (ผู้ร่วมงาน 275,000 คน)
  • Pattaya Countdown Festival (ผู้ร่วมงาน 100,000 คน)
  • Bangsaen Full Marathon (ผู้ร่วมงาน 40,000 คน)

การสนับสนุนดังกล่าวไม่ได้จำกัดอยู่แค่การทำให้ผู้ร่วมงานสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ต โซเชียลมีเดีย หรือไลฟ์สตรีมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการรองรับระบบหลังบ้านของผู้จัดงานและร้านค้าต่างๆ ที่ต้องอาศัยการเชื่อมต่อออนไลน์ในการชำระเงินและทำการตลาด ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นไปได้ด้วยการเตรียมความพร้อมของเครือข่าย ทั้งการติดตั้งสถานีฐานถาวรและสถานีฐานเคลื่อนที่ (Small Cell) เพื่อรองรับการใช้งานที่หนาแน่นในแต่ละพื้นที่จัดงานโดยเฉพาะ

 

ปั้น “ONE CHICHAN” สู่ Hub ใหม่แห่ง Wellness & Retreat ระดับโลก

นอกจากการสนับสนุนอีเวนต์ที่มีอยู่เดิม AIS ยังได้นำศักยภาพของเครือข่าย 5G เข้าไปมีบทบาทสำคัญในการร่วมพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ โดยจับมือกับพันธมิตรเพื่อผลักดันพื้นที่ ‘วัน ชีจรรย์’ (ONE CHICHAN) ให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางแห่งการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการพักผ่อน (Wellness & Retreat) แห่งใหม่ของประเทศไทย

คุณตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ปลุกปั้นโครงการ กล่าวว่า “เราตั้งใจพัฒนาพื้นที่แห่งนี้ให้เป็นการท่องเที่ยวที่มีความพิเศษแตกต่างจากที่อื่น โดยมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ ซึ่งการที่จะรองรับนักท่องเที่ยวและจัดกิจกรรมระดับโลกได้นั้น โครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ต้องขอขอบคุณ AIS ที่เข้ามาสนับสนุนและวางโครงข่าย 5G ที่แข็งแกร่งในพื้นที่ของเรา”

AIS ได้ทำงานร่วมกับโครงการ ONE CHICHAN ตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อวางแผนและติดตั้งโครงข่าย 5G ให้พร้อมรองรับพื้นที่โครงการขนาด 240,000 ตร.ม. และผู้ร่วมงานที่คาดว่าจะมีจำนวนมากกว่า 27,500 คน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทั้งผู้จัดงาน ผู้ประกอบการร้านค้า และนักท่องเที่ยวที่มาเยือน จะได้รับประสบการณ์การใช้งานดิจิทัลที่ดีที่สุดอย่างไร้รอยต่อ” คุณสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าหน่วยธุรกิจปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ AIS ยืนยันความพร้อมกับ TelecomLover

การพัฒนาโครงข่าย 5G ของ AIS ในภาคตะวันออก เป็นการตอกย้ำวิสัยทัศน์ “เครือข่ายต้องแข็งแกร่ง” ที่ไม่ได้เป็นเพียงการให้บริการการสื่อสาร แต่คือการวางรากฐานดิจิทัลที่สำคัญเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของประเทศอย่างยั่งยืน ตั้งแต่การยกระดับประสบการณ์ในเทศกาลระดับประเทศ ไปจนถึงการร่วมสร้างจุดหมายปลายทางแห่งใหม่ระดับโลก ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมและความมุ่งมั่นของ AIS ในการนำเทคโนโลยีมายกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างการเติบโตให้กับคนไทยอย่างแท้จริง

Comments

comments