กรุงเทพฯ, 13 กุมภาพันธ์ 2563 – เสียวหมี่ ประเทศไทย ผู้นำนวัตกรรมของโลก ถอดรหัสความสำเร็จที่ได้จากการเข้าร่วมงาน Thailand Mobile Expo 2020 ที่ผ่านมา ซึ่งได้ขนขบวนสมาร์ทโฟนและสินค้า IoT มาจัดแสดงขายเป็นครั้งแรก พบมี 4 ปัจจัยที่ทำให้เสียวหมี่ขึ้นแท่นได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม สร้างปรากฏการณ์ให้สมาร์ทโฟนรุ่นแฟล็กชิพที่เพียงแค่รุ่นเดียวก็สามารถทำยอดขายถึง 15% ของยอดขายรวมทั้งหมดของเสียวหมี่

นาย โจนาธาน คัง ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เสียวหมี่ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า รู้สึกดีใจและเซอร์ไพร์สเป็นอย่างมากที่เสียวหมี่สร้างความสำเร็จในงาน Thailand Mobile Expo 2020 ซึ่งได้มีส่วนร่วมเป็นครั้งแรก และเราก็ได้พบว่ามีหลายปัจจัยที่ทำให้เสียวหมี่เข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภค และผู้บริโภคเกิดการตัดสินใจซื้อเกินจากเป้าหมายที่เราคาดการณ์ไว้ เราจึงนำประสบการณ์ของความสำเร็จที่ได้จากลูกค้ามาถอดรหัสดังนี้

• Product Feature – นวัตกรรมต้องโดนใจ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากในยุคนี้ ยุคที่การแข่งขันในตลาดเน้นเรื่องการพัฒนานวัตกรรมให้สามารถตอบสนองความต้องการและการใช้งานแบบ 360 องศา ไม่เพียงต้องมีฟีเจอร์ครบที่ตอบโจทย์การทำงาน แต่ต้องสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้ใช้ได้ด้วยถึงจะครองใจผู้บริโภคยุคนี้ อย่างรุ่น Mi Note 10 Series ที่มาพร้อมกับนวัตกรรม 108MP กล้องมือถือที่มีความละเอียดมากที่สุดในโลก โดยเสียวหมี่เปิดตัวเป็นรายแรกและได้รับการยกย่องให้เป็นสมาร์ทโฟนแห่งปี 2019 ที่มีนวัตกรรมกล้องที่ดีที่สุดในราคาที่สัมผัสได้ ซึ่งนอกจากสเปคตอบโจทย์แล้ว ฟังก์ชั่นที่ให้มายังตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้ที่ชื่นชอบถ่ายภาพได้ดีอีกด้วย ซึ่งภายในงาน สมาร์ทโฟนแฟลกชิพรุ่นนี้แค่รุ่นเดียวก็สามารถทำยอดขายถึง 15% ของยอดขายรวมทั้งหมดของเสียวหมี่

• Branding – กระแสการยอมรับ และการถูกพูดถึงของเสียวหมี่ มีอย่างต่อเนื่องตลอดปีที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่เราเติบโตอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่มียอดการจัดส่งสมาร์ทโฟนสูงเป็นอันดับที่ 4 ของโลก มีแพลตฟอร์ม IoT สำหรับลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยสมาร์ทดีไวซ์มากกว่า 213 ล้านผลิตภัณฑ์ (ทั้งนี้ไม่รวมสมาร์ทโฟนและแล็ปท็อป) และยังถูกวางจำหน่ายมากกว่า 90 ประเทศในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก นอกจากนี้ปีที่แล้ว เรายังได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน “Fortune Global 500” หรือการจัดอันดับบริษัทที่ทำรายได้สูงที่สุดในโลก 500 บริษัท ประจำปี 2019 ของนิตยสารฟอร์จูนเป็นครั้งแรก ส่งผลให้แบรนด์เสียวหมี่ในสายตาลูกค้าทั้งชาวไทยและทั่วโลกเป็นที่รู้จักและถูกยอมรับ นอกเหนือไปจากนั้นการเติบโตและการได้รับการตอบรับจากลูกค้าทั่วโลกทำให้ผู้บริโภคชาวไทยมั่นใจในผลิตภัณฑ์ของเสียวหมี่มากขึ้นด้วย นี่เป็นอีกเหตุผลที่ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

• Satisfaction Management – การบริหารความพึงพอใจของลูกค้า แม้จะเป็นเรื่องยากในยุคที่ผู้บริโภคมีทางเลือกที่หลากหลาย แต่สำหรับเสียวหมี่แล้วเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เราจึงได้ออกแบบทั้งราคาและของแถมให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจมากที่สุด การเลือกหาของแถมที่โดนใจ เราพิจารณาจากสถิติและสภาวการณ์ปัจจุบัน โดยอิงจากกระแสความต้องการและความนิยมในผลิตภัณฑ์ของเสียวหมี่จากแคมเปญช้อปปิ้งออนไลน์อย่าง 11.11 และ 12.12 ที่ผ่านมา พบว่า เครื่องฟอกอากาศ Mi Air Purifier ที่เป็นเครื่องฟอกอากาศอัจฉริยะ เป็นอุปกรณ์ที่มีความต้องการสูง โดยเฉพาะในสถานการณ์ฝุ่นมลพิษปัจจุบัน เราจึงนำของแถมชิ้นนี้มาจัดโปรโมชั่นควบคู่ไปกับสมาร์ทโฟนรุ่นแฟล็กชิพของเรา เพื่อดึงดูดความสนใจและให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์กับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อีกด้วย นอกจากนั้นเรายังบริหารความรู้สึกของลูกค้าในช่วงเวลาการต่อคิวชำระเงินและรับของแถม ด้วยการนำบริการกาแฟสดจากเครื่องชงกาแฟเสียวหมี่ เครื่องชงกาแฟแคปซูลรุ่นใหม่อินเทรนด์ที่เชื่อมต่อ WiFi ได้ มารังสรรค์กาแฟหอมกรุ่นให้ลูกค้าได้ลิ้มชิมรสระหว่างรอซื้อสมาร์ทโฟนภายในบูธเสียวหมี่ การทำให้ลูกค้าประทับใจในทุกๆ ด้านถือเป็นหัวใจสำคัญของการบริการและบริหารงานของเสียวหมี่ เราจึงไม่มองผ่านแม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เราสามารถแสดงความห่วงใยให้กับลูกค้าของเรา

• Social Influence – อีกหนึ่งปัจจัยในความสำเร็จครั้งนี้คือ การเติมเต็มข้อมูลข่าวสารของผลิตภัณฑ์ โปรโมชั่น กิจกรรมต่างๆ ของเสียวหมี่ผ่านทุกช่องทาง ทั้งการประชาสัมพันธ์ โซเชียลมีเดีย และ Mi Community ซึ่งทั้ง 3 ช่องทางที่กล่าวมาถือเป็นจุดแข็งของเสียวหมี่ ปัจจุบันเสียวหมี่ถือเป็นแบรนด์เดียวที่มีคอมมูนิตี้ที่เข้มแข็งที่สุด และในเมืองไทยเรามีหมี่แฟน (Mi Fan) อยู่กว่า 1,000,000 คนทั่วประเทศ ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้จะติดตาม แนะนำ บอกต่อในข้อมูลของเสียวหมี่อย่างต่อเนื่อง และรอคอยที่จะได้เป็นเจ้าของนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของเสียวหมี่อยู่ตลอดเวลา ทำให้เราเห็นหมี่แฟนที่ไม่เคยเจอกันมาก่อนแต่ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยน แนะนำ และขยายคอมมูนิตี้นี้ให้ใหญ่ขึ้นในงานครั้งนี้ด้วย Thailand Mobile Expo ของเสียวหมี่จึงไม่เพียงเฉพาะเป็นการขนสินค้าหรือนวัตกรรมมาขายเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งพบปะของผู้ที่รักและชื่นชอบเสียวหมี่และนวัตกรรม มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและมาอัพเดตสินค้าใหม่ๆร่วมกัน

จากปัจจัยข้างต้นทำให้เสียวหมี่ได้เรียนรู้ว่า ความสำเร็จเกิดขึ้นจากความเข้าใจในพฤติกรรม ความต้องการซื้อสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ IoT ของผู้บริโภคเป็นหลัก และเพื่อเป็นการตอบแทนความไว้วางใจที่มีให้กับเสียวหมี่เสมอมา เราจึงขอมอบความพิเศษนี้ด้วยการขยายเวลาโปรโมชั่นสุดฮอตต่อไปอีก โดยเริ่มจากวันนี้เป็นต้นไป

• เมื่อซื้อสมาร์ทโฟนรุ่น Redmi Note 8 และ Redmi Note 8 Pro รับฟรีทันที Special Gift Pack มูลค่ารวมกว่า 1,600 บาท ทันที และในโอกาสความสำเร็จนี้ เสียวหมี่มอบความคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม ด้วยการประกาศปรับราคามือถือใหม่ 2 รุ่นนี้ลงมาอีก 1,000 บาท หวังสร้างประสบการณ์การใช้งานมือถือใหม่ให้กับผู้บริโภคทุกคน โดยรุ่น Redmi Note 8 Pro ความจุ 128 GB ลดราคา 1,000 บาท จาก 8,999 บาท เหลือ 7,999 บาท และ Redmi Note 8 Pro ความจุ 64 GB ลดราคาจาก 7,999 บาท เหลือ 6,999 บาท ทั้งนี้สำหรับรุ่น Redmi Note 8 ความจุ 64 GB ลดราคาจาก 5,999 บาท เหลือเพียง 4,999 บาทเท่านั้น

• เมื่อซื้อสมาร์ทโฟนรุ่น Mi Note 10 Series ที่มาพร้อมนวัตกรรมความละเอียดของกล้อง 108MP ซึ่งเป็นความละเอียดของกล้องมือถือที่สูงสุดของโลก รับฟรีทันทีเครื่องฟอกอากาศ Mi Air Purifier 2C มูลค่า 3,990 บาท ทันที

โดยโปรโมชั่นข้างต้นนี้สามารถหาซื้อได้ที่ TG Fone, BaNANA IT, Powerbuy และร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศ

Comments

comments