เทคโนโลยีในยุคสมัยใหม่นี้ ได้สร้างนวัตกรรมที่ช่วยแก้ไขปัญหาเดิมๆ ให้หมดไป และอำนวยความสะดวกให้มนุษย์ทำงานได้ดียิ่งขึ้น หนึ่งในความก้าวหน้าที่น่าสนใจในช่วงปีที่ผ่านมานี้และเกี่ยวข้องกับองค์กรจำนวนมากคือนวัตกรรมการพิมพ์บัตร ที่ทั้งสะดวก ปลอดภัย และประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าแต่ก่อน ทำให้องค์กรและหน่วยงานต่างๆ พิมพ์บัตรให้พนักงานหรือผู้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น

การเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ดังกล่าว สามารถสรุปออกมาได้เป็น 5 เทรนด์หลักที่น่าจับตา จากการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ของบริษัท HID Global บริษัทด้านผลิตภัณฑ์และโซลูชันการระบุตัวตนชั้นนำระดับสากล

Nils Wahlander และ Mike Mans ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์อาวุโสทั้ง 2 ท่าน ของ HID Global ได้เปิดเผยในงานสัมมนาออนไลน์ของบริษัทเมื่อเร็วๆ นี้ว่า เทคโนโลยีการพิมพ์บัตรเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ ต้องพิมพ์บัตรออกมาเป็นกระดาษและเคลือบโดยใช้อุปกรณ์ทำความร้อน ซึ่งใช้เวลานานและหลายขั้นตอน ก่อนจะมีการพัฒนาเข้าสู่ยุคการพิมพ์สีแบบระเหิด (Dye Sublimation) ที่ย้อมสีลงบนบัตรโดยตรง ใช้ในการพิมพ์บัตรหลายประเภทและเป็นที่นิยมในวงกว้าง แต่ยังไม่เหมาะกับการพิมพ์สมาร์ทการ์ด จึงเกิดการพัฒนาซอฟต์แวร์การพิมพ์บัตรบนเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนตัวและการพิมพ์แบบRetransfer ที่พิมพ์บัตรลงบนฟิล์มแผ่นใส เหมาะแก่การพิมพ์บัตรในยุคสมัยใหม่ ที่ต้องใช้เทคโนโลยีประกอบ เช่น บัตรชำระเงินแบบไร้สัมผัส (Contactless Card)

แต่เทคโนโลยีการพิมพ์บัตรไม่ได้หยุดอยู่แค่เพียงเท่านั้น Nils Wahlander และ Mike Mans ได้เผยถึง 5 เทรนด์นวัตกรรมการพิมพ์บัตรที่น่าติดตามและเกิดการใช้งานจริงขึ้นแล้วในปัจจุบัน ดังนี้

  1. ซอฟต์แวร์การพิมพ์บัตรบนเว็บ (Web-based Card Issuance Software): นวัตกรรมที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถสั่งงานพิมพ์ทางไกลได้โดยไม่ต้องเคลื่อนย้ายอุปกรณ์และไม่ต้องวุ่นวายกับการตั้งค่าเหมือนแต่ก่อน แบ่งออกเป็น 2 แพลตฟอร์มหลักคือ On-Premise ที่ต้องติดตั้งลงบนเซิร์ฟเวอร์ของหน่วยงาน ทำให้ผู้ใช้งานล็อกอินได้ผ่านเครือข่ายของบริษัท คล้ายการล็อกอินเข้า Netflix กับแบบ Hosted Cloud ที่เข้าถึงได้ผ่านการล็อกอินบนเว็บไซต์ ซึ่งไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายด้านการติดตั้งซอฟต์แวร์ลงบนเซิร์ฟเวอร์

 

ข้อดีของซอฟต์แวร์ประเภทนี้คือความเรียบง่ายในการติดตั้งและใช้งาน ติดตั้งซอฟต์แวร์เพียงครั้งเดียวก็ใช้งานได้ทั้งองค์กร และตรวจสอบข้อมูลและการทำงานของเครื่องพิมพ์ได้แบบเรียลไทม์

 

  1. การพิมพ์บัตรทางไกล (Remote Issuance): เมื่อองค์กรเติบโตขึ้นและมีสำนักงานอยู่หลายแห่ง การพิมพ์บัตรทางไกลถือเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายและประหยัดเวลา เมื่อก่อนผู้ใช้งานอาจสั่งการพิมพ์จากแคลิฟอร์เนียไปยังเครื่องพิมพ์ในสำนักงานที่ฮ่องกง โดยไม่อาจรู้ได้เลยว่าบัตรจะพิมพ์เสร็จเมื่อไรหรือครบถ้วนตามความต้องการหรือไม่ แต่เทคโนโลยีการพิมพ์บัตรทางไกลช่วยทำให้การตรวจสอบสถานะการพิมพ์เป็นไปได้และมีความปลอดภัยผ่านการตั้งระบบการเข้ารหัส (encryption) ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่เหมาะแก่การใช้งานในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19

 

  1. การจัดการสมาร์ทการ์ดระหว่างขั้นตอนการพิมพ์บัตร: การใช้งานสมาร์ทการ์ดเป็นที่แพร่หลายขึ้น แต่กระบวนการออกแบบบัตรยังคงมีความซับซ้อนอยู่ เช่น ต้องใช้กระบวนการพิมพ์แบบ Retransfer แทนการพิมพ์แบบปกติ ต้องใช้ฮาร์ดแวร์เสริมในการติดตั้งชิปเข้ากับระบบเพื่อพิมพ์บัตร และจำเป็นต้องกรอกข้อมูลลงบนบัตรด้วยตัวเอง ซึ่งอาจเกิดความผิดพลาดได้และไม่ปลอดภัยเท่าที่ควร

 

วิธีการแก้ไขคือการใช้กระบวนการที่เรียกว่า Inline Personalization ที่ผู้ใช้งานสามารถป้อนข้อมูลลงบนซอฟต์แวร์ที่ออกแบบไว้สำหรับกระบวนการนี้ หลังจากนั้นจะเกิดการอ่านข้อมูลและพิมพ์ออกมาลงบัตรแต่ละใบโดยอัตโนมัติ ซึ่งในปัจจุบัน มีโซลูชันที่ออกแบบมาเพื่อทำเช่นนี้หลายรูปแบบ หนึ่งในนั้นคือโซลูชันของ HID

 

ข้อดีของกระบวนการนี้คือไม่ซับซ้อน ทำทุกอย่างจบได้อย่างง่ายดายและใช้งานบัตรได้ทันทีหลังพิมพ์เสร็จ

 

  1. Visual Security: กระบวนการนี้คือการทำให้บัตรมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยการพิมพ์ Visual Security Element (VSEs) การใช้เลเซอร์แกะสลัก (laser engraving) หรือการเพิ่มเลเยอร์ Overlaminates ลงบนบัตร ทำให้บัตรมีอายุการใช้งานเพิ่มขึ้น ปลอมแปลงได้ยากจากองค์ประกอบทางรูปภาพที่พิมพ์ลงบนตัวบัตร

 

  1. เทคโนโลยีการพิมพ์สมัยใหม่: นอกจาก 4 เทรนด์ข้างต้นแล้ว ยังมีเทคโนโลยีการพิมพ์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยอีก 3 แบบที่น่าสนใจคือ

 

5.1 ระบบแกะสลักเลเซอร์ (Laser Engraving System) ที่สามารถสร้างหลายองค์ประกอบความปลอดภัย ทำให้เกิดการปลอมแปลงยาก และใช้งานได้กับเทคโนโลยี Retransfer และอิงค์เจ็ท

 

5.2 การพิมพ์ด้วยอิงค์เจ็ทบนบัตรพลาสติก ทำให้คุณภาพการพิมพ์บนพื้นผิวดีขึ้น มีทั้งหมึกแบบSolvent-based ที่ใช้งานง่าย และแบบ UV-cured ที่ใช้คู่กับแสงยูวี ทำให้มีพื้นผิวแข็งแรงและมีความทนทานสูง นิยมใช้พิมพ์ข้อมูลส่วนตัวลงบัตรเดบิตและเครดิต

 

5.3 ความพร้อมของระบบที่รวดเร็วขึ้นผ่าน iON (instant ON) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้การพิมพ์แบบ Retransfer ใช้งานได้เร็วขึ้น ลดเวลาอุ่นเครื่องก่อนพิมพ์ ทำให้ประหยัดพลังงานมากขึ้นด้วย

 

5 เทรนด์เหล่านี้คือนวัตกรรมที่เกิดขึ้นแล้วในอุตสาหกรรมการพิมพ์บัตรและโซลูชันระบุตัวตน โดย HID Global ได้ติดตามการเปลี่ยนแปลงต่างๆ และพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ก้าวหน้าทันสมัยอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้เท่าทันความต้องการของตลาดและผู้ใช้งาน.

 

เกี่ยวกับเอชไอดี โกลบอล (HID Global)

เอชไอดี โกลบอล ผู้ขับเคลื่อนระบบระบุตัวตนของผู้คน สถานที่และสิ่งต่างๆ ทั่วโลก เราช่วยให้ผู้คนทำธุรกรรมได้อย่างปลอดภัย ทำงานได้อย่างมีประสิทธิผล และเดินทางได้อย่างเสรี โซลูชั่นการระบุตัวตนช่วยให้ผู้คนเข้าถึงสถานที่ได้อย่างสะดวก ทั้งสถานที่จริงทางกายภาพและสถานที่เสมือนจริงในโลกดิจิตอล และเชื่อมต่อกับสิ่งต่างๆ ที่บ่งชี้ ตรวจสอบ และติดตามผ่านช่องทางดิจิตอลได้ ผู้คนนับล้านทั่วโลกใช้ผลิตภัณฑ์และบริการของเอชไอดีเพื่อนำทางในชีวิตประจำวัน และมีหลายพันล้านสิ่งที่เชื่อมต่อผ่านเทคโนโลยีของเอชไอดี เราทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา โรงพยาบาล สถาบันการเงิน ธุรกิจอุตสาหกรรม และบรรดาบริษัทที่มีนวัตกรรมล้ำสมัยที่สุดของโลก บริษัทฯ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองออสติน รัฐเท็กซัส ปัจจุบัน มีพนักงานกว่า 4,000 คนทั่วโลกและมีสำนักงานตั้งอยู่ในประเทศต่างๆที่รองรับลูกค้าได้มากกว่า 100 ประเทศ HID Global® เป็นแบรนด์ในเครือกลุ่มบริษัท ASSA ABLOY ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.hidglobal.com

 

© 2019 HID Global Corporation/ASSA ABLOY AB. สงวนลิขสิทธิ์  HID, HID Global, the HID Blue Brick logo the Chain Design เป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียน ของ HID Global, ASSA ABLOY AB หรือบริษัทในเครือในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศต่างๆ และห้ามใช้ก่อนได้รับอนุญาต เครื่องหมายการค้าอื่นๆ ทั้งหมด เครื่องหมายการให้บริการ และชื่อผลิตภัณฑ์หรือบริการเป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

Comments

comments