วานิชซอตฟ์แวร์ประกาศเปิดตัวโซลูชั่นหลักในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานระบบเครือข่ายบริการคอนเทนต์ (CDN) ทั้งบริการแบบวีดีโอออนดีมานด์ (VOD) และบริการไลฟ์วีดีโอถ่ายทอดสดผ่านอินเทอร์เน็ต

วานิชซอตฟ์แวร์ หนึ่งในพันธมิตรกลุ่มธุรกิจโซลูชั่นระบบเครือข่ายของ Intel Network Builders ได้ทดสอบประสิทธิภาพของโซลูชัน Varnish Edge Cloud ภายใต้สภาพการใช้งานจริง โดยระบบทดสอบใช้โปรเซสเซอร์ Intel Xeon แบบปรับขนาดได้ เจนเนอเรชั่น 3 ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนด Intel Select Solution ในการใช้งานกับ Visual Cloud Delivery Network โดยที่เซิร์ฟเวอร์ที่ทำการทดลองทั้งหมดนี้ได้รับการปรับแต่งเพิ่มเติมด้วยฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน รวมถึงความสามารถในการทำงานร่วมกับสถาปัตยกรรมหน่วยความจำที่ใช้ร่วมกันสำหรับมัลติโปรเซสเซอร์ (NUMA)

ผลทดสอบ จากการเปิดตัวสาธิตการทำงานครั้งแรกแบบเสมือนในงาน Mobile World Congress เมืองบาร์เซโลนา ปรากฏดังนี้

ประสิทธิภาพวิดีโอออนดีมานด์บน CDN (1 Socket) : ความเร็วในการส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายความเร็วสูงสุดถึง 192 กิกะบิตต่อวินาที (Gbps.) ด้วยแพลตฟอร์มที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel Xeon แบบปรับขนาดได้ พร้อมกับหน่วยบันทึกข้อมูลแบบ SSD รุ่นที่ 4 Intel DC P5510
ประสิทธิภาพวิดีโอออนดีมานด์บน CDN (2 Socket) : ความเร็วในการส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายสูงสุดถึง 383 กิกะบิตต่อวินาที (Gbps.) ด้วยแพลตฟอร์มที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel Xeon แบบปรับขนาดได้ พร้อมกับหน่วยบันทึกข้อมูลแบบ SSD รุ่นที่ 4 Intel DC P5510
ประสิทธิภาพในการดสอบการถ่ายทอดวีดีโอไลฟ์สดบน CDN : ผลทดสอบพบว่ามีประสิทธิภาพสูงขึ้นสูงสุด 1.74 เท่า บนแพลตฟอร์มใช้โปรเซสเซอร์ Intel Xeon แบบปรับขนาดได้ พร้อมรองรับ Intel Optane persistent memory  200 series เทียบกับผลการทดสอบกับฮาร์ดแวร์รุ่นก่อนหน้า

สำหรับกลุ่มของผู้ผลิตสินค้าตามสั่ง ผู้ติดตั้งระบบ และผู้ให้บริการเครือข่ายสื่อสารผลการทดสอบนี้ยังส่งผลไปยังเรื่องของการกำหนดวิธีการเฉพาะในการสร้างโซลูชันCDN ที่รวดเร็วขึ้น คุ้มค่ากว่า ซึ่งสามารถจัดการผู้ใช้จำนวนมากขึ้นด้วยโซลูชันบบเดียวกัน หรือให้บริการเนื้อหาที่มีความละเอียดสูงกว่าแก่ผู้ใช้จำนวนใกล้เคียงกันการผสมผสานระหว่างซอฟต์แวร์ประสิทธิภาพสูงในการแคชชิ่งข้อมูลของ วานิชและโปรเซสเวอร์สำหรับงานประมวลผลรุ่นล่าสุดจากอินเทล ทั้งหมดเป็นที่มาของประสิทธิภาพทั้งในเรื่องของความสามารถในการทำงาน การส่งข้อมูลเข้าและออกรวมถึงประสิทธิภาพในการประมวลผลที่จำเป็นต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการถ่ายทอดคอนเทนต์ออกสู่ผู้รับบริการ

ลาร์ส ลาร์สสัน ซีอีโอ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ วานิชซอตฟ์แวร์ กล่าวว่า “จากการร่วมมือทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างเราและอินเทล ในการบุกเบิกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้านประสิทธิภาพของโซลูชั่นระบบ CDN เราไม่เพียงแค่เข้าใกล้ความเร็วในระดับเดียวกับการใช้งานบนสาย และปลดล็อกความสามารถในการรองรับความต้องการสตรีมมิงจำนวนมาก แต่ยังทำให้ต้นทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในการทำเช่นนั้นยังช่วยลดความยุ่งยากในการปรับใช้เช่นกัน โดยทำให้เห็นว่าผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายสามารถนำเอาโซลูชันไปใช้งานและบรรลุเป้าหมายด้านประสิทธิภาพบนเครือข่ายตนเองได้อย่างไร

เอสเพน บราสเตด รองประธานฝ่ายวิศวกรรม ของวานิชซอตฟ์แวร์ เสริมว่า “การเป็นพันธมิตรกับอินเทลนั้น ช่วยให้เราสามารถเสริมประสิทธิภาพได้ทั้งบนซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ให้ทำงานได้ตอบโจทย์ความต้องการของระบบเครือข่ายได้มากที่สุด ผลทดสอบประสิทธิภาพล่าสุดของเราส่วนหนึ่งเกิดจากความสามารถในการเข้าถึงสถาปัตยกรรมหน่วยความจำที่ใช้ร่วมกันสำหรับมัลติโปรเซสเซอร์ (non-uniform memory access, NUMA) ที่มีอยู่ในซอฟต์แวร์รุ่นล่าสุดของวานิชช่วยให้ซีพียูแต่ละตัวบนแพลตฟอร์มระบบโปรเซสเซอร์แบบคู่ สามารถเข้าถึงหน่วยความจำโดยตรงและรวดเร็ว

* ประสิทธิภาพการทำงานของระบบมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งาน การปรับตั้งระบบ และปัจจัอื่นๆ สามารถตรวจสอบรายละเอียดการปรับตั้งระบบได้ที่ www.intel.com/3gen-xeon-config

Comments

comments