ผู้ให้บริการเน็ตบ้านเริ่มขยับไปสู่อนาคตอีก 1 Step แล้ว หลังจากการที่เราต้องอยู่กับข้อจำกัด ท่อตัน 1Gbps มาเป็นระยะเวลาร่วม 10 ปี นั่นหมายความว่า การใช้งานเน็ตในบ้านจะหลุดพ้นจากข้อจำกัดคอขวดได้ทันที โดยจุดสำคัญอยู่ที่การเลือกแพ็กเกจในการใช้งาน 2Gbps หากงบน้อยไม่ต้องการลงทุนซื้ออุปกรณ์เอง ก็เลือกแบบที่ผู้ให้บริการจัดหา Modem Router ให้ แต่ก็ต้องแลกกับประสิทธิภาพและข้อจำกัดต่าง ที่จะตามมา เป็นต้นว่า อุปกรณ์คุณภาพไม่ดีพอ แรมน้อย ซีพียูต่ำเน็ตก็จะออกมาใช้ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ข้อสำคัญที่ทุกรายพบคือไม่มีเน็ต 2Gbps ออกมาทางสายแลนหากเลือกชุดอุปกรณ์ที่แถมมาให้ ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือการเลือกแพ็กเกจแบบ BYOD หรือนำอุปกรณ์ที่เรามีมาใช้งานเอง และอุปกรณ์ที่พูดถึงในวันนี้คือ DECO X90 ชุด Mesh 2 ตัวที่รองรับเน็ตไร้สาย 2Gbps พร้อมการใช้งานเน็ต 2Gbps ออกทางแลนในจุด Mesh ด้วย port LAN 2.5Gbps

DECO X90 คือ MESH ตัวท้อปสุดเท่าที่ TP-Link มีจำหน่ายในปัจจุบันโดยคุณสมบัติเด็ดประกอบไปด้วย

CPU Quad Core 1.5GHz  RAM 1GB รองรับการเชื่อมต่อสูงสุดกว่า 200 อุปกรณ์พร้อมกันโดยที่ประสิทธิภาพไม่ตก

WAN/LAN 2.5Gbps รองรับเน็ต 2Gbps พร้อม LAN 1Gbps อีก 1 ช่อง

Wi-Fi 6 HE160 คลาส AX6600 โดยปล่อยคลื่น 5GHz 4x4MIMO ใช้งานอัตโนมัติที่ช่อง 36-48 ให้ LinkSpeed 4804Mbps มาพร้อม Backhaul ที่แข็งแรงในช่อง 149-161 แบบ HE80 4x4MIMO ในส่วน Wi-Fi 2.4GHz แบบ AX 40 MHz LinkSpeed 574Mbps

ระบบ AI-Driven Mesh  ทำให้ Mesh เรียนรู้สภาพแวดล้อมและปรับสัญญาณให้เหมาะสมได้เองตลอดเวลา

ขยายสัญญาณแรงทั่วบ้านด้วย Boosted Seamless Coverage ทรงพลังบน  Wi-Fi 6 ฟีเจอร์ต่าง เช่น OFDMA และ MU-MIMO รวมถึง BSS Coloring แบบขนมาครบ

การจัดการ Router ด้วย App DECO ที่สะดวก ครบ เข้าใจง่าย ตั้งแต่ติดตั้งจนถึงการใช้งาน ใครๆ ก็ใช้ได้

แกะกล่อง DECO X90

DECO X90 จำหน่ายในชุด 2 ตัว สามารถใช้งานตัวใดตัวหนึ่งก็ได้กับจุดหลักและอีกตัวสำหรับจุด Mesh รูปลักษณ์ภายนอกเหมาะกับนิยาม DECO คือแนวคิดที่จะทำให้ Router เป็นเครื่องประดับอย่างนึงของบ้าน ภายในประกอบไปด้วยสายอากาศที่ทรงพลัง 6 ชุด ด้านล่างและด้านบนมีรูระบายความร้อน โดยรูเสียบสายไฟจาก Adapter จะอยู่บริเวณใต้เครื่อง พร้อมช่อง WAN 2.5Gbps 1 ช่องหากนำไปใช้ในจุด Mesh แบบไร้สาย ช่องนี้จะกลายเป็น LAN 2.5Gbps เพื่อให้เรานำเน็ต 2Gbps นี้ออกไปใช้ได้อัตโนมัติ เราสามารถนำ switch hub ที่รองรับ 2.5/10G มาเชื่อมต่อเพื่อขยายการใช้งานได้หากต้องการใช้งานที่มากกว่า 1 Port

ในกล่องประกอบด้วย X90 จำนวน 2 ตัว มีสายแลนและคู่มือพร้อม Adapter จำนวน 2 ชุด

การติดตั้งครั้งแรกสำหรับเน็ต 2Gbps แบบ BYOD

DECO X90 เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งานเน็ตความเร็วระดับ 1000 – 2000 Mbps เพราะสเปคเครื่องนั้นมีความสามารถและเหมาะสม เปรียบเหมือน SmartPhone ก็คือระดับเรือธง (Flagship) ดังนั้นการรีดประสิทธิภาพออกมาใช้งานเป็นสิ่งสำคัญซึ่งสัมพันธ์โดยตรงกับลักษณะการติดตั้งเพื่อใช้งาน โดยปกติแล้วแพ็กเกจ BYOD นั้นจะอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อเป็น Bridge mode ในรูปแบบที่ใช้ Smart Optical Converter ของผู้ให้บริการทำหน้าที่แปลงสัญญาณไฟเบอร์เป็นสายแลนชนิด 2.5Gbps แล้ว ppoe เข้า router ที่มี port WAN 2.5Gbps เพื่อใช้งานเน็ตความเร็ว 2Gbps ดังนั้นการติดตั้ง X90 จึงต้องใช้งานแบบ router mode เพื่อเรียกใช้ประสิทธิภาพให้ออกมาสูงสุด

โดยการติดตั้งเพื่อใช้งานครั้งแรกทำได้โดยการโหลด App DECO ใน Appstore หรือ PlayStore ก่อน หลังจากนั้นเปิด App ขึ้นมา เราจะเห็น List รายชื่อรุ่น DECO ต่าง ๆ ที่รองรับ ก็ให้เลือก X90/X5700

หลังจากนั้นก็ให้ถอดปลั๊ก Modem หรือ Smart Optical Converter ก่อน จากนั้นเสียบสายแลนเพื่อเชื่อมต่อระหว่าง Modem กับ X90 ที่ port 2.5Gbps ให้เรียบร้อย เสร็จแล้วเสียบปลั๊กเปิดใช้งานทั้ง Modem และ  X90 และรอจนกระทั่งไฟสีฟ้ากระพริบเป็นสัญญาณว่าพร้อมในการติดตั้ง จากนั้นมองหา SSID ที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า Deco แล้วเชื่อมต่อ SmartPhone เข้าใช้งานโหมดตั้งค่า เมื่อเชื่อมต่อเรียบร้อยจะขึ้นคำว่า “Connected to Deco”

จากนั้นก็ทำการตั้งค่าต่าง ๆ ตามที่ขึ้นบนหน้าจอต่อเนื่อง โดยจุดสังเกตอยู่ที่การตั้งค่า router mode ในจุดนี้เราต้องเลือกแบบ ppoe กรอก login และ password ที่ผู้ให้บริการให้มา (ถ้าไม่ทราบให้สอบถามกับผู้ให้บริการได้) ในกรณีที่จำเป็นต้อง tag VLAN ก็สามารถทำได้ในหัวข้อ IPTV/LAN ได้ และหากต้องการเปลี่ยน IP Address ของ DHCP Server ก็สามารถกำหนดได้เองเช่นกัน หากใช้ค่าเริ่มต้น IP ของ router จะเป็น 192.168.68.1

สำหรับการตั้งค่าไวไฟ เราไม่สามารถเลือกช่องสัญญาณเองได้ ทำได้แค่เลือกเปิด หรือปิด 2.4 กับ 5GHz เท่านั้นเพราะตัวเครื่องออกแบบมาให้ใช้งานระบบ MESH ซึ่งจะมี Backhaul สำหรับคุยกันระหว่าง router กับ mesh โดย คลื่น 5GHz ที่ใช้งานได้จะอยู่ที่ช่อง 36-48 มีความกว้างที่ 160 MHz (HE160) แบบ 4x4MIMO LinkSpeed สูงสุดกับอุปกรณ์ที่รองรับคือ 4804Mbps ซึ่งโดยทั่วไปมือถือหรือ Laptop จะเชื่อมต่อได้สูงสุดที่ 2401 Mbps (2x2MIMO) ในส่วนของ 2.4GHz จะใช้ SSID เดียวกันกับ 5GHz ซึ่งไม่ต้องกังวลหากอุปกรณ์ไหนที่รองรับ 5GHz ระบบจะถีบหรือสลับคลื่นไปใช้ 5GHz บน SSID เดียวกันให้เองอัติโนมัติไม่ว่าจะใช้งานตรงจุดไหนของบ้านทั้งจุดหลักและจุดเสริมที่ใช้ผ่าน MESH ก็ตาม เราสามารถกำหนดชื่อ SSID ได้เอง ในส่วนรหัสผ่านรองรับสูงสุดถึง WPA3

อีก 1 ฟีเจอร์สำคัญที่ไม่ควรมองข้ามในการตั้งค่าเพื่อเปิดใช้งานครั้งแรกก็คือ การตั้งค่าความปลอดภัยของเครือข่ายภายในบ้านที่ TP-Link ใส่มาใน router ประเภท high end เท่านั้น กับ TP-Link HomeShield’s ดูแลด้านความความปลอดภัยและป้องกันภัยคุกคาม รวมถึงการจำกัดเวลาใช้งานด้านอินเทอร์เน็ตสำหรับเด็กและบุตรหลาน สามารถปิดกั้น บล็อคเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมได้ ซึ่งหากต้องการใช้งานในระดับสูงขึ้นไปอีกก็มีทางเลือกให้ซื้อเพิ่มในตัว Pro ได้ด้วย (ทดลองฟรี30วัน)

สำหรับการตั้งค่าอื่น ๆ ก็สามารถเลือกใช้งานผ่าน App Deco เช่นการตั้งค่าเปิด ปิด ไฟ LED , การตั้งค่าเพื่อให้อัพเดท firmware อัตโนมัติ , ปุ่ม WPS , การตั้งค่าให้เตือนเมื่อมีการเชื่อมต่อจากอุปกรณ์ใหม่ที่ไม่เคยเชื่อมต่อมาก่อน รวมถึง รายงานประจำเดือน ภาพรวมการใช้งาน ปริมาณเน็ตที่ใช้งาน

ทดสอบการใช้งาน และประสิทธิภาพผ่านทางไวไฟ

การทดสอบมุ่งเน้นความเร็วสูงสุดที่ router สามารถรีดสปีดออกมาได้โดยใช้ SmartPhone ที่รองรับไวไฟ 6 แบบ HE160 ได้แก่ Mi 11T Pro กับเน็ตที่สมัครไว้แบบ BYOD 2Gbps กับ AIS Fibre ในจุดหลักเราได้ความเร็วไวไฟสูงสุดราว ๆ 1.4Gbps และเมื่อนำจุด Mesh ไปวางไว้อีกชั้นเพื่อกระจายเน็ตให้ครอบคลุมทั่วบ้านแบบไม่ต้องเดินสายแลน เราได้ความเร็วไวไฟ 1.2 ถึง 1.3Gbps ซึ่งนับว่าใกล้เคียงกับจุดหลักมากที่สุดเท่าที่เคยทดสอบมาสำหรับการใช้งานในแบบ Mesh Wi-Fi รวมถึงค่า PING หรือ Latency ที่จุดหลักและจุดเสริมนั้นใกล้เคียงหรือไม่มีความแตกต่าง ซึ่งนับว่าเป็นคุณลักษณะสำคัญที่ดีของ Mesh Wi-Fi ในรุ่น TOP สุด อันเกิดจากสเปค CPU และ RAM สูงเพียงพอ

ทดสอบการใช้งาน และประสิทธิภาพผ่านทางแลนในจุด Mesh

จุดเด่นของ X90 ที่เหมาะกับการนำมากระจายเน็ต 2Gbps ให้ใช้ได้ทั่วบ้านทั้งผ่านไวไฟและทางสายแลนคือการให้ port 2.5Gbps มาด้วย ดังนั้นในชั้นบนที่วางจุดเสริม Mesh เพิ่มความครอบคลุมไว้ เราสามารถนำเน็ตที่วิ่งเกิน 1Gbps มาใช้งานได้เลย หากต้องการใช้หลายอุปกรณ์ก็เพียงนำ switch hub ที่รองรับ port 2.5 หรือ 10G มาต่อขยาย ก็จะทำให้เน็ตในจุดอื่น ๆ สามารถใช้งานผ่านแลนแบบไม่คอขวดแบบเดิมได้ ในการนี้เรานำ iPad mini 6 มาเชื่อมต่อที่จุด Mesh อีกชั้น ใช้ Adapter LAN 2.5G to type C มาต่อ ได้ความเร็วสูงถึง 1.7Gbps !!

จากโจทก์ที่ตั้งไว้สำหรับแพ็กเกจ 2Gbps เน็ตแรงทั่วบ้าน จะเห็นได้ว่า DECO X90 สามารถใช้งานได้ครบทั้งไวไฟ และเน็ตที่ออกจากทางสายแลน ความแรง ระดับความเข้มของสัญญาณ ทำให้บ้านหลังใหญ่สามารถใช้งานอุปกรณ์จำนวนมาก ๆ ได้พร้อมกันแบบไม่ติดขัด Latency คงที่สม่ำเสมอ ที่สำคัญคือความเร็ว 2Gbps ถูกใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ พร้อมความสะดวกสบายในการตั้งค่าอย่างง่าย ๆ สามารถเคลื่อนย้ายไปไว้จุดต่าง ๆ ที่ต้องการใช้งานแบบไม่ต้องอาศัยการลากสายแลน ก็ถือเป็นอีก 1 ทางเลือกที่ดีสำหรับ BYOD กับคนที่กำลังตัดสินใจสมัครเน็ตบ้านที่แรงที่สุดและได้ใช้งานครบคุ้มกับค่าบริการรายเดือนและสัญญาการใช้งานระยะยาวในอุปกรณ์ Mesh Wi-Fi ระดับ High-End จาก TP-Link ครับ

ขอขอบคุณ TP-Link Thailand ที่เอื้อเฟื้ออุปกรณ์ในการทดสอบและนำมารีวิวในครั้งนี้ด้วยครับ

สนใจดูรายละเอียดและสั่งซื้อได้ตามช่อง Official TP-Link 

Comments

comments