สำหรับใครหลายๆ คนเวลาพูดถึงปลั๊กไฟ หรือที่ภาษาช่างเรียกว่า เต้ารับ ส่วนมากมักนึกถึงปลั๊กไฟแบบมี 3 ช่อง กรอบปลั๊กสีขาวพื้นๆ ติดตั้งตามผนังบ้านอย่างที่เห็นกันชินตา แต่ถ้าลองเข้าไปดูในความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ประเภทสวิตช์ไฟและเต้ารับของ “AvatarOn A จะเห็นถึงความตั้งใจของผู้ผลิตที่ใส่ใจต่อการออกแบบสวิตช์และเต้ารับให้รองรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคอย่างแท้จริง

ที่น่าสนใจคือ ในยุคที่ DIY (Do It Yourself) ต้องมา ทั้งสะดวก ประหยัด ปรับแต่งได้ดั่งใจ ซ้ำยังภาคภูมิใจอีกต่างหาก การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมาผสมผสานเพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เช่น ความสะดวกในการติดตั้งแบบที่เรียกว่า เทคโนโลยี Easy Clip ช่วยให้ติดตั้งปลั๊กไฟได้อย่างง่ายดาย รวดเร็วและปลอดภัย

นับเป็นหนึ่งในหลายปัจจัยที่ทำให้ AvatarOn A ชนะใจคณะกรรมการคว้ารางวัลแบรนด์ยอดเยี่ยมแห่งปี ในสาขา Best Home Solution Influencer Campaign จากงาน Thailand Influencer Awards 2021 พลิกโฉมวงการสวิตช์ไฟ สำหรับบ้านและที่พักอาศัยยุคใหม่ ในฐานะที่เป็นสวิตช์ไฟที่ให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกในการออกแบบสวิตช์ไฟและเต้ารับได้อย่างอิสระตามสไตล์ที่ชื่นชอบ

ในส่วนของสวิตช์ไฟนั้นเมื่อคราวเปิดตัว AvatarOn A รูปลักษณ์ภายนอกที่ออกแบบให้ไร้กรอบ ตอบโจทย์ทุกดีไซน์ เรียบและกลมกลืนไปกับผนังที่ติดตั้ง รวมทั้งสีสันที่มีให้เลือกไม่เพียงแค่สีขาว แต่ยังเพิ่มสีดำและสีเทา รวมเป็น 3 ตัวเลือกเพื่อให้เหมาะกับการออกแบบตามสไตล์ของผู้บริโภค เป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจเมื่อแรกเห็น เนื่องจากในสายงานออกแบบจะทราบดีว่าสีดำ-ขาว ยังคงเป็นสีคลาสสิกตลอดกาลและไม่เคยตกยุค ให้ทั้งความหรู ดูดี มีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร

ไม่เพียงเท่านั้น ประเด็นของการใช้งานที่ผู้ผลิตให้ความสำคัญเป็นอันดับ 1 ทั้งในแง่ของประโยชน์ใช้สอยให้ครอบคลุมในทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน และเหนืออื่นใดคือความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยผ่านการรับรองตามมาตรฐานทั้งของประเทศไทยและสากล มีตรา มอก. และ IEC เป็นการันตี บนฐานของการทำวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการใช้งานของผู้บริโภคทุกวันนี้ ซึ่งมีไลฟ์สไตล์ที่ปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์กับความก้าวหน้าของเทคโนโลยี โดยเพิ่ม USB Type C รองรับการใช้งานกับอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกรูปแบบ

เพราะปลั๊กไฟในปัจจุบันไม่ได้เป็นแค่ปลั๊กไฟ แต่เป็นหัวใจสำคัญของบ้านที่จะขาดเสียมิได้!

เหตุผลของการทำวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ประเภทสวิตช์และปลั๊กไฟให้มีความหลากหลายนั้น ประเด็นสำคัญคือการเพิ่มทางเลือกให้สอดรับและเหมาะสมกับฟังก์ชั่นการใช้งานของแต่ละพื้นที่ ตั้งแต่ห้องนอนไปจนถึงห้องน้ำ รองรับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีหลากประเภทตั้งแต่หม้อหุงข้าวไปจนถึงสมาร์ทโฟน

Put the Right Man on the Right Job ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น แต่ละห้องในบ้านมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ต่างกัน ฉะนั้นการเลือกสวิตช์และปลั๊กไฟจึงควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งานของแต่ละพื้นที่เช่นกัน

ตัวอย่างเช่น “ห้องนอน” ห้องแห่งการพักผ่อน ชาร์จแบตเตอรี่ยามที่เหนื่อยล้าจากภารกิจนอกบ้าน หัวใจสำคัญของห้องอยู่ที่หัวนอน การติดตั้งสวิตช์และปลั๊กไฟที่หัวเตียง ควรเลือกปลั๊กไฟแบบที่มี USB Port ด้วย เพื่อรองรับการใช้งานสมาร์ทโฟน ขณะที่สวิตช์ไฟถ้าใช้แบบดิมเมอร์ สามารถหรี่ไฟปรับบรรยากาศสำหรับการพักผ่อนได้อย่างเต็มที่และตื่นขึ้นพร้อมรับวันใหม่อย่างสดใส

“ห้องโถง” หรือ “ห้องนั่งเล่น” เนื่องจากเป็นห้องอเนกประสงค์ที่ทุกคนใช้ทำกิจกรรมร่วมกัน นอกจากตำแหน่งของปลั๊กไฟที่ไม่ควรอยู่ในระดับที่ต่ำเกินไปเพื่อป้องกันเด็กเล็กแล้ว การเลือกปลั๊กที่มีม่านนิรภัยเป็นการเพิ่มความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่ง รวมทั้งสวิตช์ไฟแบบ 2 ทางเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เช่นในจุดเชิงบันไดเพื่อจะสามารถปิด-เปิดไฟในส่วนของชั้นบนของอาคารได้อีกด้วย หรือ การติดสวิตช์ 2 ทางบริเวณหัวนอนก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ไม่เลว สามารถเปิดปิดไฟได้โดยไม่ต้องลุกจากเตียงนอน เป็นต้น ซึ่งเราสามารถเลือกสีสวิตช์ไฟให้แตกต่างเพื่อง่ายในการจดจำ

ห้องที่เป็นเสบียงคลังของบ้าน อย่าง “ห้องครัว” อุปกรณ์ที่ใช้งานในพื้นที่นี้มักเป็นอุปกรณ์ที่ต้องเสียบปลั๊กแทบจะตลอดเวลา เช่น ตู้เย็น หม้อหุงข้าว กาต้มน้ำ ฯลฯ ควรเลือกใช้ปลั๊กไฟแบบที่มีสวิตช์ปิด-เปิด เพื่อว่าจะไม่ต้องถอดปลั๊กทุกครั้งที่เลิกใช้งาน และควรเลือกสเปคที่รองรับกำลังวัตต์สูงอย่างน้อย2,500 วัตต์ ส่วนห้องสุดท้ายที่จะขาดไปเสียไม่ได้คือ “ห้องน้ำ” การติดตั้งปลั๊กไฟควรเลือกชนิดที่มีฝาครอบกันน้ำจะดีที่สุด

หยิบเอาสาระน่าสนใจเหล่านี้มาเล่าสู่กันฟังเป็นข้อคิดพิจารณา เพราะฟังก์ชั่นครบ ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน…เช่นนี้ไม่รัก AvatarOn A ได้อย่างไร!

 

Comments

comments