แอนท์กรุ๊ป (Ant Group) และการท่องเที่ยวสิงคโปร์ (Singapore Tourism Board – STB) ขยายความร่วมมือในการปรับปรุงประสบการณ์การเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติในสิงคโปร์ให้มีความสะดวกสบายและราบรื่นมากยิ่งขึ้น ความร่วมมือดังกล่าวนับเป็นการพัฒนาต่อยอดจากโครงการความร่วมมือที่ริเริ่มขึ้นเมื่อปี 2562 ซึ่งมุ่งเน้นขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในสิงคโปร์ผ่านกิจกรรมด้านการตลาดและดิจิทัลในสองปีข้างหน้า

เพื่อให้สถานที่ท่องเที่ยวในสิงคโปร์น่าสนใจมากยิ่งขึ้นในสายตาของนักท่องเที่ยวจากเอเชีย รวมถึงตลาดสำคัญ ๆ อย่างมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ และประเทศไทย แอนท์กรุ๊ปและการท่องเที่ยวสิงคโปร์จึงได้เปิดตัวแคมเปญ SingapoReimagine with Alipay+ โดยเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญฟื้นฟูการท่องเที่ยว SingapoReimagine ของการท่องเที่ยวสิงคโปร์ ซึ่งมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับนักท่องเที่ยวด้วยการชำระเงินในสิงคโปร์ผ่านโมบายวอลเล็ทที่เหล่านักท่องเที่ยวคุ้นเคยดีอยู่แล้ว

แคมเปญความร่วมมือดังกล่าวยังนำเสนอสิทธิพิเศษต่าง ๆ แก่นักท่องเที่ยวที่ใช้งาน 6 โมบายวอลเล็ทที่เป็นพาร์ทเนอร์ของ Alipay+ ขณะเดินทางท่องเที่ยวในสิงคโปร์ ยิ่งไปกว่านั้น แอนท์กรุ๊ปยังขยายมินิโปรแกรม Passion Made Possible Privileges (PMPP)[1] ซึ่งทำร่วมกับการท่องเที่ยวสิงคโปร์ มุ่งให้บริการนักท่องเที่ยวที่มายังสิงคโปร์ ซึ่งเดิมเปิดให้บริการเฉพาะบนอาลีเพย์เท่านั้น ก่อนจะเริ่มเปิดให้บริการผ่านโมบายวอลเล็ทอื่น ๆ ภายใต้บริการ Alipay+ การริเริ่มกิจกรรมเหล่านี้จะช่วยธุรกิจในสิงคโปร์สามารถเข้าถึงและมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ เพิ่มvisibility และการรับรู้สิทธิพิเศษต่าง ๆ สำหรับนักท่องเที่ยวทั้งก่อนและระหว่างการเดินทางไปสิงคโปร์

ความร่วมมือระหว่างการท่องเที่ยวสิงคโปร์ และ Alipay+ จะนำร่องการใช้ดิจิทัลโซลูชันกับธุรกิจท้องถิ่นในพื้นที่ต่าง ๆ เช่น การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในระบบการบริการ การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำดิจิทัลมาร์เกตติ้ง และการสร้างเสริมประสบการณ์ลูกค้า

โมบายวอลเล็ทใหม่ที่สามารถใช้ชำระค่าใช้จ่ายได้แล้วในสิงคโปร์ ได้แก่ TrueMoney จากไทย, GCash จากฟิลิปปินส์, และ AlipayHK จากฮ่องกง, จีน เพิ่มจากพาร์ทเนอร์รายเดิมอย่างKaKao Pay จากเกาหลีใต้, Touch ’n Go eWallet จากมาเลเซีย และ Alipay ในจีนแผ่นดินใหญ่ ส่งผลให้จำนวนโมบายวอลเล็ทที่พร้อมใช้งานในประเทศในสิงคโปร์เพิ่มเป็น 6 รายแล้วในตอนนี้ นักท่องเที่ยวที่ใช้โมบายวอลเล็ทเหล่านี้สามารถทำธุรกรรมกับธุรกิจท้องถิ่นที่รับชำระเงินผ่าน Alipay+ ได้อย่างง่ายดาย รวมถึงร้านค้าปลีก[2]ที่สนามบินชางงี, แท็กซี่ ComfortDelgro, โรงแรม และสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เช่น Gardens by the Bay 

แองเจล เจา ประธานกลุ่มธุรกิจระหว่างประเทศของแอนท์กรุ๊ป กล่าวว่า “เราเชื่อมั่นว่าความร่วมมืออย่างเปิดกว้างภายในอีโคซิสเต็มส์ของเราจะช่วยให้ภาคส่วนต่าง ๆ ได้รับประโยชน์มากขึ้นจากนวัตกรรมดิจิทัล แอนท์กรุ๊ปพร้อมร่วมมือกับพาร์ทเนอร์อย่างเช่น การท่องเที่ยวสิงคโปร์ เพื่อช่วยให้องค์กรธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจขนาดเล็กและธุรกิจรายย่อยได้รับบริการดิจิทัลที่ดีที่สุด รวมถึงการชำระเงินและมาร์เกตติ้งโซลูชัน และเรามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันของอุตสาหกรรมต่าง ๆ และสร้างสรรค์ประโยชน์ให้แก่สังคม”

“ขณะที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวกำลังฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมให้สิงคโปร์กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจากนักท่องเที่ยว และทำให้การเดินทางมีความปลอดภัย ราบรื่น และมีประสิทธิภาพ โดยอาศัยโซลูชันดิจิทัลต่าง ๆ เช่น Alipay+” แองเจล เจา กล่าวเพิ่มเติม

นายคีธ ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของการท่องเที่ยวสิงคโปร์ กล่าวว่า “เราเห็นความต้องการในการท่องเที่ยวอย่างมากในตลาดเอเชียเมื่อสิงคโปร์กลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง และหวังว่าความร่วมมือนี้จะแข็งแกร่งและสามารถรับมือกับความต้องการได้ ความร่วมมือต่อไปกับแอนท์กรุ๊ปจะนำเสนอประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อเมื่อนักท่องเที่ยวมาเยือนสิงคโปร์ สร้างความผูกพัน และผลักดันให้ธุรกิจต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวปรับเปลี่ยนการดำเนินงานไปสู่ดิจิทัล”

เขตปกครองพิเศษฮ่องกง, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, เกาหลีใต้, ไทย, และจีนแผ่นดินใหญ่ ติดอันดับ 15 ประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปสิงคโปร์มากที่สุดในระหว่างเดือนมกราคมถึงสิงหาคม ปี2565[3] ทั้งนี้ก่อนการแพร่ระบาด ราวหนึ่งในสามของนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังสิงคโปร์มาจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอีกหนึ่งในสามมาจากจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ และส่วนที่เหลือมาจากภูมิภาคอื่น ๆ ของโลก

Comments

comments