5G เริ่มเป็นทางเลือกใหม่ สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ภายในคอนโด ตึกสูง Apartment หรือแม้แต่ Office ขนาดเล็กที่ไม่สามารถติดเน็ตบ้านหรือเน็ตมีสายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 5G SA ที่มี Bandwidth สูง ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาคลื่น 4G ที่มีอยู่อย่างจำกัดและมีผู้แชร์ใช้งานจำนวนมากอีกต่อไป ประกอบกับการที่ผู้ให้บริการชั้นนำอย่าง AIS 5G นำคลื่น 5G ที่ประมูลได้ทุกคลื่น มาเปิดใช้งานอย่างครบถ้วน ทั้ง n41 และ n28 อนุญาตให้อุปกรณ์ที่รองรับการรวมคลื่น 5G ใช้งานได้อย่างอิสระเต็มประสิทธิภาพทำให้การใช้งานพร้อม กันในย่านที่มีปริมาณการใช้งานสูง ผู้ใช้ตามคอนโด ตึกสูง สามารถพึ่งพา 5G SA ได้สะดวกสบาย และนี่ก็เป็นโจทก์ใหญ่ที่สามารถหาคำตอบได้ด้วยอุปกรณ์ CPE Router 5G ที่มีประสิทธิภาพสูงอย่าง AIS5G ZTE Home Wi-Fi MC888 ที่พร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้

MC888 นับเป็น 5G Router ตัวที่ 3 ที่ทาง AIS นำเข้ามาจำหน่าย เป็นตัวที่มีสเปคและประสิทธิภาพดีที่สุดเท่าที่มีวางจำหน่ายในไทยในขณะนี้ คือรองรับการรวมคลื่น 5G หรือ ENDC ทั้ง 2600 และ 700 ได้ รวมถึง 5G NSA ที่สามารถรวมคลื่นในทุกรูปแบบ เช่น n41+B3+B1+B8 หรือ n41+B3+B1+B1 เรียกได้ว่า ดูดความเร็วจากทุกคลื่นในอากาศมาใช้งานได้ครบหมด ยิ่งดูดได้เยอะ นั่นหมายความว่าประสบการณ์หรือความเร็ว Download ก็ยิ่งได้มากขึ้นตามไปด้วย ในส่วนของ SA ก็ได้ Latency ที่ต่ำกว่าและรองรับ Upload SA แบบ 2x2MIMO ด้วย และ 4G+ ก็รองรับไปถึง LTE cat16 รวมคลื่นในไทยได้ 3CA สบาย ๆ

นอกจาก feature รวมคลื่นได้มากแล้ว MC888 ยังรองรับการกระจายสัญญาณไวไฟเทคโนโลยีล่าสุด Wi-Fi 6 HE160 แบบ 4K QAM ได้ด้วย ทำให้ smartphone tablet notebook PC กล่องแอนดรอย หรืออะไรก็ตามที่รองรับ HE160 สามารถเชื่อมต่อแล้วทำ LinkSpeed ได้ถึง 2.4Gbps เรียกได้ว่าไม่ง้อสายแลนเพื่อใช้เน็ตแรงๆอีกต่อไป

MC888 อัดสเปคมาแบบขั้นสุด คือใส่แรมมามากถึง 1GB เทียบเท่า wifi router ระดับ high-end ทำให้การทำงานราบรื่น สามารถรองรับผู้ใช้พร้อมกันได้สูงถึง 64 อุปกรณ์พร้อมกัน นอกจากนี้ยังใช้ chip snapdragon X62 ซึ่งถือว่าเป็นตัวล่าสุด มีความทันสมัยของภาครับและส่ง 5G/4G จาก Qualcomm เรียกว่าใช้ได้อีกยาวนานไม่ล้าสมัยง่าย

นอกจากคุณสมบัติที่เพียบพร้อมแล้ว ทางด้าน firmware ที่ทาง AIS ทำงานร่วมกับ ZTE ก็ออกแบบมาให้เราใช้งานได้ครบทุกฟีเจอร์แบบไม่กั๊ก สามารถปรับเปลี่ยนโหมดได้อิสระ เช่น การล้อคคลื่น 5G เราสามารถบังคับให้ตัวเครื่องสามารถเลือกจับคลื่นตามที่เราต้องการได้ ทั้ง SA/NSA สามารถตั้ง reboot ตามเวลาที่เรากำหนดได้ เช่นอยากให้ restart ทุกวัน รองรับการใช้งาน VPN ที่สามารถเข้าไป config ใช้งานได้

แกะกล่อง ZTE MC888

ในกล่องประกอบไปด้วยตัว Router สีขาว มี Logo AIS 5G สีเทา ดูเรียบหรู สามารถวางในห้องทุกห้องได้อย่างไม่ขัดสายตา มาพร้อมสายแลนขนาด 1 เมตร 1 เส้น และ Adapter สีดำ พร้อมใช้งาน มีคู่มือภาษาไทยและตัวเครื่องก็รองรับทั้งเมนูภาษาอังกฤษและภาษาไทย

ใต้เครื่อง MC888 จะพบที่ใส่ซิม รองรับ nano sim ใส่ได้ทุกค่าย ไม่ล้อคซิม ไม่ล้อคเครือข่าย พร้อมช่อง type C แต่ไม่ใช่ช่องสำหรับเสียบใช้งาน แต่เป็นช่องสำหรับการ service เมื่อเครื่องมีปัญหาเท่านั้น

ตัวเครื่องมี Port LAN Gigabit จำนวน 2 Port และช่องต่อสายโทรศัพท์ 1 ช่องเนื่องจาก MC888 รองรับการใช้งาน โทรเข้า-ออกภายใต้ VoLTE หรือ VoNR ได้ด้วย พร้อมปุ่ม WPS เพื่อเชื่อมต่อไวไฟไม่ต้องใส่รหัสกับอุปกรณ์ที่รองรับเช่น Android

การตั้งค่า MC888

การตั้งค่าทำได้ 2 ทางคือผ่าน web browser 192.168.0.1 ใช้รหัสผ่านครั้งแรกว่า admin และสามารถตั้งค่าผ่าน App ZTE Link หาดาวน์โหลดได้ใน AppStore (iOs/iPadOs) และ Android โดยการใช้งานครั้งแรกสามารถใช้รหัสผ่านไวไฟใต้เครื่องกรอกเพื่อเชื่อมต่อแล้วค่อยไปเปลี่ยนชื่อ SSID หรือ password ที่ต้องการกำหนดเองได้

หน้าแรกเมื่อเราเข้าผ่าน 192.168.0.1 จะเป็น Dashboard รวมบอกสถานะการใช้งานต่าง ๆ และสามารถเลือกหัวข้อในการปรับตั้งค่าได้ทั้งหมด

สำหรับการเปลี่ยนโหมดเพื่อเลือกใช้ 5G SA NSA 4G 3G โดยทุกครั้งที่จะเปลี่ยนโหมดให้กด Off ก่อน เพื่อปิดการเชื่อมต่อในขณะนั้น และเมื่อเปลี่ยนโหมดเรียบร้อยแล้วจึงกลับมา On เพื่อเริ่มใช้งานตามโหมดที่เลือกได้

นอกจากจะเลือกเปลี่ยนโหมดการใช้งานได้แล้ว เรายังสามารถกำหนดคลื่นหรือล้อคคลื่นตามต้องการแบบ Manual ได้ด้วย เผื่อในกรณีที่จำเป็นจะตัดคลื่นที่ค่อนข้างช้าออกจาก Combination หรืออยากให้จับคลื่นที่มี bandwidth สูง ๆ ก็สามารถเข้าไปตั้งค่าเองผ่านเมนู Advance Setting แล้วไปที่ Others เลือก Developer options ใส่ password และเลือก Network debug จะพบเมนูก็สามารถเลือกคลื่นใช้งานอย่างอิสระ

การตั้งค่าไวไฟก็สามารถเข้าไปทำรายการได้ง่าย ๆ จะเลือกคลื่นหรือช่อง 2.4 หรือ 5GHz ก็ปรับแต่งได้ตามใจชอบ โดยในประเทศไทยสามารถใช้ช่อง 36-48 สำหรับ Bandwidth 160 MHz และ ช่อง 149-161 สำหรับ Bandwidth 20-40-80 MHz ส่วน คลื่น 2.4GHz ใช้ช่อง 1-13 ระดับ Bandwidth 20-40 MHz นอกจากนี้ยังมีตัวเลือก Band steering คือการเลือกคลื่น 2.4/5GHz อัตโนมัติได้ด้วยหากใช้ชื่อ SSID เหมือนกันทั้ง 2 คลื่นก็จะช่วยสลับการใช้งานตามความแรงของคลื่น ณ จุดที่อุปกรณ์สามารถเชื่อมต่อได้

การเลือกจุดรับ-ส่งสัญญาณของ router 5G นั้นมีความสำคัญ และทาง ZTE ก็เพิ่มฟีเจอร์ในการช่วยหาจุดติดตั้งที่ดีที่สุดให้ผ่านเมนู Suggested Position เพียงนำไปวางในจุดที่ต้องการทดสอบแล้วกดที่ Detect now ระบบจะวัดค่าต่าง ๆ แล้วแจ้งให้เราทราบว่าจุดนี้ได้คะแนนระดับไหน ถ้าดีมากจะแจ้งว่า “Perfect” เราสามารถใช้จุดนี้วาง MC888 ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทดสอบประสิทธิภาพ MC888

เมื่อตั้งค่าต่าง ๆ ตามต้องการแล้ว เราสามารถเข้าไปดูระดับสัญญาณ ชื่อคลื่น ปริมาณ Bandwidth รวมถึงการทำ CA ระดับ SINR ที่กำลังใช้งานได้ผ่านเมนู Advance settings แล้วไปที่ Others เลือก Network information ระบบจะแสดงค่าแบบ real time ตัวอย่างในภาพจะเห็นการเชื่อมต่อแบบ 5G NSA B3+B1+B8+n41 อย่างชัดเจนพร้อมบอก PCI ที่ใช้อยู่ด้วย

การทดสอบความเร็ว หากอุปกรณ์ที่ใช้งานรองรับ Wi-Fi 6 (AX) ระดับ 160 MHz สามารถเชื่อมต่อได้ที่ SSID ที่เป็น 5GHz จะได้ LinkSpeed สูงสุด 2402 Mbps ในการทดสอบเราใช้ Samsung Galaxy Z Fold 4 ได้ความเร็วจาก MC888 ที่เชื่อมต่อแบบ 5G NSA ในโรงแรม ความสูง ชั้นที่ 5 โดยมีการรบกวนจากไวไฟของห้องอื่น ๆ เป็นจำนวนมากทั้ง 2.4/5GHz  ได้ Speed มากถึง 700Mbps ตามภาพ Upload ก็ดีมากได้ถึง 149Mbps เทียบกับไวไฟของโรงแรมแล้วน่าใช้มากกว่าหลายเท่าตัว

ประเด็น 5G CA บน AIS ZTE Router MC888

ด้วยความที่ status CA ไม่ขึ้นโชว์ใน network info ของ MC888 แต่ตามสเปคแล้ว สามารถทำ CA n41+n28 ได้ วิธีพิสูจน์ที่ใกล้เคียงและเป็นไปได้มากสุด คือการนำ device ที่ 5G CA ได้มาประชันผลทดสอบหลาย ๆ ครั้งในจุดที่ค่าสัญญาณ รับ-ส่งได้ SINR พอ ๆ กัน ในบททดสอบนี้คือ Samsung Galaxy Fold 4 5G และนำ device ที่ไม่รองรับ 5G CA มาทดสอบในจุดเดียวกัน ค่าสัญญาณ รับ-ส่งพอๆกัน ในที่นี่คือ Pocket Wifi 5G ZTE MU5001

ทดสอบกับ MC888 เปิดไวไฟ HE160 LinkSpeed 2.4Gbps ใช้ Fold4 เทสตามภาพ พุ่งปรี้ดถึง 526 Mbps

ทดสอบปิดไวไฟ ใช้เน็ตจากตัว Fold4 เอง ซึ่งสถานะตาม *#0011# Samsung แสดงเป็น 5G CA n41+n28 (60+15MHz) ผลตามภาพได้ความเร็วพอ ๆ กับภาพแรก คือ เกือบ 500Mbps

ทดสอบกับ MU5001 เปิดไวไฟ HE80 LinkSpeed 1.2Gbps ใช้ Fold4 เทสซึ่ง MU5001 ไม่รองรับ 5G CA ได้ความเร็ว 4xx Mbps ซึ่งห่างจากผลที่ได้จาก MC888 และ Fold4 อย่างมีนัยและเป็นความเร็วที่น่าจะไม่ได้ n28 เข้ามาเสริม

ดังนั้น MC888 น่าจะรองรับ 5G CA ของ AIS ตามสเปค แต่ไม่สามารถแสดงผลใน network info ให้ถูกต้องได้ หรือ อาจจะต้องรอ firmware ถัดไปที่จะออกมาแก้ไขโชว์ข้อมูลให้ถูกต้องกว่า version นี้

ทดสอบภาครับ-ส่ง สัญญาณไวไฟจาก MC888

ทดสอบเบื้องต้นปล่อย HE160 ในสภาพสิ่งแวดล้อม คอนโด โรงแรมนั้น ระยะทำการไปได้ไม่ค่อยไกล มีสลับไปเป็น 2.4GHz เมื่อเดินห่างจากตัวเครื่องไปประมาณ 10-12 เมตร แม้ว่าจะได้เลือกระดับสัญญาณแบบ Long Wi-Fi Coverage แล้วก็ตาม แนะนำให้วางใช้งานในห้องที่ใช้งานเป็นประจำและอยู่ในระยะสายตา (Line of sight) มากกว่าการวางไว้ไกลหรือห่างจุดใช้งานหรือข้ามชั้นเพราะอาจสลับไปใช้คลื่น 2.4GHz ที่ได้ความเร็วค่อนข้างต่ำกว่า 5GHz

โดยสรุป MC888 เป็น Router 5G ที่ดีที่สุดในขณะนี้เท่าที่จะหาได้ในประเทศไทย เมื่อทดสอบประสิทธิภาพที่ได้จาก CPU ตัวแรงอย่าง X62 ก็ดี สายอากาศภาครับ 5G ขนาด 10dBm การได้แรมขนาด 1GB ดังเช่น router ใหญ่ๆเพื่อทำให้การใช้งานพร้อมกันไม่สะดุดหยุดรอ การได้ใช้เทคโนโลยี ENDC รวม 5G หลายคลื่นและการเป็น 5G NSA ที่รวมคลื่นได้มากกว่า 4 คลื่นพร้อมกัน และยังรองรับ 5G SA ที่ได้ Latency ต่ำ ขา Upload ก็ได้ 2x2MIMO เชื่อมต่อกับ device ได้ความเร็วไวไฟ HE160 เชื่อมต่อได้ถึง 2Gbps มี VoLTE VoNR ต่อสายโทรศัพท์ใช้คุยได้ในราคาที่ 9490.- นี่เรียกว่าคุ้มจัดแบบไม่ต้องลังเลใจครับ

Link ไปจับจอง >>> https://store.ais.co.th/th/5g-home-wifi-zte-mc888.html

#AISHomeWiFi #AIS5G #ZTE #MC888 #HE160 #5GCA #ENDC #TelecomLover

Comments

comments