Bang & Olufsen ขอแนะนำลำโพงพกพารุ่นใหม่ล่าสุด Beosound A5 ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบร่วมกับดีไซน์เอเจนซี่ GamFratesi ซึ่งเป็นคู่หูนักออกแบบชาวเดนมาร์กและอิตาลี โดยนำวัฒนธรรมการออกแบบของทางเหนือและทางใต้มาผสมผสานเข้ากับคุณภาพเสียงอันทรงพลัง และฝีมือการผลิตอันพิถีพิถัน รวมถึงอายุการใช้งานที่ยาวนานตามแบบฉบับของ Bang & Olufsen 

“Beosound A5 คือลำโพงพกพาระดับไฮเอนด์ตัวใหม่ของ Bang & Olufsen ซึ่งเกิดจากการผสมผสานระหว่างผลงานการออกแบบที่งดงามเหนือกาลเวลาและความเชี่ยวชาญด้านเสียงของเรา” Michael Henriksson รองประธานฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์กล่าว “เราดีใจมาก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เราได้ร่วมงานกับ GamFratesi ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ ลำโพง 2 แบบที่เป็นการผสมผสานระหว่างความงดงามสไตล์สแกนดิเนเวียนเข้ากับดีไซน์ที่เป็นซิกเนเจอร์ของพวกเขา”

Beosound A5 มีให้คุณเลือก 2 สี คือ Nordic Weave ซึ่งมาในโครงอะลูมิเนียมสีธรรมชาติพร้อมคัฟเวอร์ที่ทำจากเส้นใยกระดาษที่นำมาถักทอเข้าด้วยกันและมือจับที่ทำจากไม้โอ๊คสีอ่อน ชวนให้นึกถึงบรรยากาศสบายๆริมชายหาดในฤดูร้อน และอีกหนึ่งสีคือ Dark Oak ที่มาในโครงอะลูมิเนียมสี Black Anthracite พร้อมคัฟเวอร์และมือจับที่ทำจากไม้โอ๊คสีเข้ม ถ่ายทอดความงดงามของสวนป่าในฤดูหนาว ลำโพงทั้ง 2 สี คือตัวแทนความงามของงานดีไซน์สไตล์สแกนดิเนเวียนที่คุณสามารถนำไปวางในบ้านหรือในสวนนอกบ้านได้อย่างลงตัว

ปฏิวัติงานดีไซน์ในตำนานของ BANG & OLUFSEN ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น  

Beosound A5 คือส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความสะดวกในการพกพาและคุณภาพของระบบเสียงภายในบ้าน มือจับที่ทำจากไม้โอ๊คช่วยให้คุณเคลื่อนย้ายลำโพงไปยังห้องต่างๆได้อย่างง่ายดาย และสามารถวางได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นบนพื้น ชั้นวาง หรือบนโต๊ะ ด้วยมาตรฐานกันน้ำและกันฝุ่นระดับ IP65 ทำให้ Beosound A5 พร้อมสำหรับการผจญภัยทุกรูปแบบ แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 12 ชั่วโมง ฝาด้านบนของลำโพงออกแบบมาให้ชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สายได้ จึงกล่าวได้ว่า Beosound A5 เป็นลำโพงที่ใช้งานได้หลากหลายที่สุดเท่าที่ Bang & Olufsen เคยมีมา เหมาะสำหรับพกพาไปได้ทุกที่ และยังสามารถควบคุมการใช้งานได้อย่างง่ายดายผ่านแอปพลิเคชัน Bang & Olufsen

“แรงบันดาลใจของ Beosound A5 มีที่มาจากหลายสิ่งหลายอย่าง รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เป็นไอคอนิกอย่างลำโพงในซีรี่ย์ Beolit และการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างสีสันและเนื้อสัมผัสของวัสดุต่างๆที่พบได้ตามธรรมชาติในแถบสแกนดิเนเวีย” GamFratesi กล่าว “ที่มาของดีไซน์เกิดจากการทดลองผสมผสานวัสดุธรรมชาติเข้าด้วยกันในหลายๆแบบ ตั้งแต่หมวกฟางสไตล์ปานามาที่นิยมสวมใส่กันตามชายหาด ไปจนถึงหนังถักด้วยมือบนเก้าอี้สไตล์เดนมาร์กในยุค 1960’s”

รูปทรงโค้งที่นุ่มนวลและวัสดุธรรมชาติบน Beosound A5 ทำให้นึกถึงขอบโค้งและมือจับของผลิตภัณฑ์ Beolit 607 ซึ่งเปิดตัวในปี 1961 ในขณะที่ผิวไม้สักของ Beolit 800 และ Beolit 1000 ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบของ Jacob Jensen ระหว่างปลายทศวรรษที่ 60 และต้นทศวรรษที่ 70 ก็มีอิทธิพลต่อแนวคิดในการออกแบบ Beosound A5 ของ GamFratesi เช่นกัน

ระบบเสียงอันทรงพลัง ไม่ผิดเพี้ยน และการพกพาที่สะดวกสบาย 

Beosound A5 ถือเป็นลำโพงพกพาที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่ Bang & Olufsen เคยมีมา และคุณภาพเสียงที่คมชัด เต็มอิ่มได้ทุกที่ ไม่ว่าจะจัดวางไว้ที่ไหน ด้วยไดร์เวอร์ 4 ทิศทาง และดิจิทัลแอมพลิฟายเออร์ 4 ตัว ให้กำลังขับรวมกันถึง 280 วัตต์ พร้อมพลังเสียงแบบ 360 องศา รวมถึงวูฟเฟอร์ขนาด 5.25 นิ้ว 1 ตัว Mid-range 2 นิ้ว 2 ตัว และทวีตเตอร์ ¾ นิ้วอีก 1 ตัว Beosound A5 จึงเป็นเลิศทั้งในด้านคุณภาพเสียงและการออกแบบ

ถึงแม้ว่า Beosound A5 จะนำแรงบันดาลใจในด้านความสวยงามมาจากลำโพงในซีรี่ย์ Beolit แต่เทคโนโลยีเสียงของ  Beosound A5 นั้น นำมาจากลำโพง Hi-Fi อย่าง Beolab 90 และ 50 ซึ่งเป็นผู้นำของลำโพงในระดับเดียวกัน นอกจากนี้  เพื่อควบคุมคุณภาพเสียงด้วยความแม่นยำสูง Beosound A5 ได้ผสานเทคโนโลยี Beamforming ที่เคยนำมาใช้ในซีรี่ย์ Beolab เป็นครั้งแรกเข้าไว้ด้วย เพื่อสร้างประสบการณ์เสียงที่เต็มอิ่มซึ่งเหนือกว่าที่เคยได้รับจากลำโพงพกพาทั่วไป

ออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่ยาวนาน

Bang & Olufsen ได้ชื่อว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้ยาวนานซึ่ง Beosound A5 ก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน นอกเหนือจากรูปลักษณ์ที่งดงามเหนือกาลเวลาแล้ว ลำโพงรุ่นนี้ยังมาในดีไซน์แบบโมดูลาร์ ทำให้ส่วนประกอบสำคัญสามารถแยกชิ้นส่วนได้ ช่วยเพิ่มอายุการใช้งาน และทำให้การซ่อมบำรุงเป็นเรื่องง่าย คุณจึงไม่ต้องเปลี่ยนลำโพงใหม่ โดยไม่จำเป็น นอกจากนี้ Bang & Olufsen ยังจะผลิตคัฟเวอร์ที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ด้วยวัสดุและสีสันใหม่ๆอยู่เสมอเพื่อให้คุณสามารถเปลี่ยนลุคและสไตล์ของ Beosound A5 ได้ตามใจต้องการ

องค์ประกอบเหล่านี้จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ของ Bang & Olufsen อยู่กับคุณไปอีกตราบนานเท่านาน รวมถึงสามารถส่งต่อให้กับเจ้าของคนต่อๆไปได้ในอนาคต และเมื่อ Beosound A5 สิ้นสุดอายุการใช้งาน ส่วนประกอบต่างๆที่สามารถแยกส่วนได้และมีคุณภาพสูงก็ยังสามารถนำกลับไปรีไซเคิลได้อีกด้วย

แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ของ Bang & Olufsen ที่มีชื่อว่า Mozart ช่วยให้อายุการใช้งานของ Beosound A5 ยาวนานเหนือกว่างานฝีมือและดีไซน์แบบโมดูลาร์ เพราะซอฟท์แวร์ตัวนี้จะคอยอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ๆอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพเสียง การเชื่อมต่อ และซอฟต์แวร์ต่างๆ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของ Bang & Olufsen สามารถเชื่อมต่อสิ่งดีๆจากในอดีต เทคโนโลยีของปัจจุบัน และนวัตกรรมแห่งอนาคตเข้าด้วยกันได้ ดังนั้น Beosound A5 จึงมีทั้งประสิทธิภาพและความสามารถในการพัฒนาไปพร้อมๆ กับเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อช่วยปลดล็อกประสบการณ์การฟังในรูปแบบใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

การเชื่อมต่อที่ราบรื่นไม่มีสะดุด

การใช้งานที่หลากหลายของ Beosound A5 มีความโดดเด่นเหนือกว่าดีไซน์และซอฟต์แวร์ เพราะนอกจากคุณจะใช้งานเป็นลำโพงแบบเดี่ยวๆแล้ว แพลตฟอร์มซอฟท์แวร์ที่ชื่อว่า Mozart ยังช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อ Beosound A5 สองเครื่องเข้าด้วยกันได้อย่างราบรื่นพร้อมระบบเสียงในรูปแบบสเตอริโอ รวมถึงลำโพงอื่นๆของ Bang & Olufsen ที่รองรับ Mozart เช่นกัน ไม่เพียงเท่านั้น คุณยังสามารถใช้งาน Beosound A5 ร่วมกับระบบสมาร์ทโฮมของ Bang & Olufsen ได้อย่างไม่มีสะดุด เพื่อให้คุณเพลิดเพลินกับประสบการณ์เสียงที่เต็มอิ่มจากทุกห้องภายในบ้านด้วยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว

ฟังก์ชันที่ล้ำสมัยของ Mozart และเทคโนโลยีการสื่อสารแบบ Ultra-wide band จะช่วยปลดล็อกฟีเจอร์ใหม่ๆ ในอนาคต เช่น Proximity Pairing ซึ่งจะช่วยให้การเชื่อมต่อพัฒนาไปอีกขั้น โดย Proximity Pairing จะเชื่อมต่อลำโพง Beosound A5 สองเครื่องเข้าด้วยกันโดยอัตโนมัติ เพื่อให้คุณสัมผัสประสบการณ์เสียงในรูปแบบสเตอริโอเมื่อวางลำโพงไว้ใกล้ๆ กัน

Beosound A5 สามารถเชื่อมต่อได้หลากหลายแพลตฟอร์ม ทั้ง Beolink Multiroom, AirPlay 2, Chromecast, Spotify Connect, Bluetooth 5.2 และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่า Beosound A5 ไม่ได้มีแค่ความสวยงามภายนอก แต่ยังมีความสามารถเหนือกว่าลำโพงพกพาทั่วไป   

ราคาและสถานที่จัดจำหน่าย

Beosound A5 มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Nordic Weave ในราคา 47,900 บาท และ Dark Oak ในราคา 52,900 บาท วางจำหน่ายในร้าน Bang & Olufsen Iconsiam Flagship, Gaysorn Village Experience, Siam Paragon, Central Embassy, Central Eastville, The Emporium, BeTrend Paragon และ ร้านค้าปลีกที่ได้รับอนุญาต Dotlife, Studio7, iStudio by Copperwired, iStudio by SPVi, MunkongGadget, Bb Beyond D-Box, Bb Move, Power Buy, Power Mall Paragon , Power Mall Emporium, King Power และร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการ Banana IT,  Mercular425 Degree, Firster, Shopee และ Lazada และร้านค้าปลีกอื่นๆ ที่ได้รับอนุญาตตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดตามเราผ่านทาง @bangolufsen บน Instagram, Facebook, Twitter, YouTube และ Linkedin โดยใช้แฮชแท็ก #BeosoundA5

Comments

comments