อะโดบี ( Nasdaq:ADBE ) เปิดฉากการประชุม Adobe MAX 2023 ซึ่งเป็นการประชุมด้านงานครีเอทีฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีการถ่ายทอดสดเป็นเวลาสามวันจากลอสแอนเจลิสไปถึงครีเอเตอร์และนักการตลาดทั่วโลก ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์หลักๆ พร้อมการบรรยายจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ตลอดจนการสร้างแรงบันดาลใจและการมีส่วนร่วมของชุมชนผู้ใช้ งาน MAX ในปีนี้ได้เปิดศักราชใหม่ของความคิดสร้างสรรค์สำหรับทุกคน (Creativity for All) ด้วยการต่อยอดจากการเปิดให้ใช้งาน Firefly และการเปิดตัว Adobe GenStudio อะโดบีจะนำเสนอนวัตกรรม AI ที่กำหนดนิยามใหม่ให้กับเวิร์กโฟลว์ด้านงานครีเอทีฟและซัพพลายเชนด้านคอนเทนต์ระดับองค์กร นอกจากนี้ ที่งาน MAX อะโดบีจะจัดการประชุมร่วมกับนักวิเคราะห์ทางการเงินและนักลงทุนอีกด้วย
อะโดบีเปิดตัวโมเดล Firefly ใหม่ 3 โมเดล ได้แก่ Adobe Firefly Image 2 Model, Adobe Firefly Vector Model และ Adobe Firefly Design Model ซึ่งเป็นโมเดลที่ออกแบบมาเพื่อสร้างคอนเทนต์ที่สามารถใช้งานในเชิงพาณิชย์ได้อย่างปลอดภัย พร้อมกันนี้ อะโดบีได้เปิดตัวฟีเจอร์ AI ใหม่ที่สำคัญมากกว่า 100 รายการ รวมถึงอัปเดตในแอปพลิเคชั่นหลักๆ ของ Creative Cloud เช่น Adobe Illustrator, Adobe Photoshop, Adobe Lightroom, Adobe Premiere Pro, Adobe After Effects และ Adobe Stock
ตอนนี้ Adobe Express มอบความสามารถด้าน AI มากยิ่งขึ้นด้วยการเพิ่มเติมฟีเจอร์ Generative Fill , Text to Template และ Translate ซึ่งทำให้แอปสร้างสรรค์แบบครบวงจรทำงานได้เร็วยิ่งขึ้นและสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้ทุกระดับทักษะ สำหรับนักเรียน ฟีเจอร์ การวาดภาพ และ ระบายสี ใหม่ เป็นตัวเปลี่ยนเกมในการทำให้ไอเดียของพวกเขาเป็นจริง
เพื่อให้องค์กรต่างๆ สามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในการสร้างและเปิดใช้งานคอนเทนต์แบบเรียลไทม์ อะโดบีจึงได้นำเสนอ Adobe GenStudio ซึ่งเป็นโซลูชั่นใหม่ที่ผสานรวมสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการคิดค้นไอเดีย การสร้างคอนเทนต์ การผลิต และการเปิดใช้งาน พร้อมด้วย Firefly Generative AI ที่สามารถปรับแต่งได้ ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักสำหรับการพลิกโฉมซัพพลายเชนด้านคอนเทนต์ระดับองค์กร โซลูชั่นแบบครบวงจรใหม่ล่าสุดของอะโดบีผนวกรวม Creative Cloud, Firefly, Express, Frame.io, Analytics, AEM Assets และ Workfront เพื่อรองรับการสร้างคอนเทนต์ตามจินตนาการและแนวทางของแบรนด์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
เดวิด วาดวานี ประธานฝ่ายธุรกิจสื่อดิจิทัลของอะโดบี กล่าวว่า “นับตั้งแต่ที่เราเปิดตัวโมเดลรูปภาพ Firefly ตัวแรกเมื่อเดือนมีนาคม เรารู้สึกประหลาดใจกับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากผู้ใช้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Firefly มีประโยชน์มากเพียงใดต่อการเพิ่มประสิทธิภาพในการออกแบบและทดลอง ทั้งยังช่วยเร่งขั้นตอนการทำงาน โดยไม่กระทบต่อการควบคุมงานครีเอทีฟ จนถึงปัจจุบันมีการสร้างภาพโดยใช้โมเดล Firefly มากกว่า 3 พันล้านภาพ ซึ่งรวมถึงการสร้างภาพมากกว่า 1พันล้านภาพในเดือนที่แล้วเพียงเดือนเดียว การปรับใช้ Firefly ในช่วงระยะแรกนี้แสดงให้เห็นถึงพลังที่โดดเด่นในการนำเอา Foundation Model มาใช้กับเวิร์กโฟลว์ที่ลูกค้ารู้จักและชื่นชอบ”
อะโดบีกำลังพัฒนา Foundation Model คุณภาพสูงสำหรับสื่อทุกประเภท และวันนี้ อะโดบีได้ประกาศเปิดตัว Firefly Image 2 Model, Adobe Firefly Vector Model และ Adobe Firefly Design Model ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรีลีสที่สำคัญในส่วนของโมเดล Generative AI สำหรับงานครีเอทีฟ Firefly Image 2 คือโมเดลการสร้างภาพรุ่นใหม่ที่ช่วยยกระดับการควบคุมงานครีเอทีฟและคุณภาพสำหรับผู้ใช้ Firefly Image 2 สร้างภาพที่มีคุณภาพเหนือกว่า แสดงผลภาพบุคคลได้แม่นยำยิ่งขึ้น และปรับปรุงการจัดตำแหน่งข้อความ เพื่อมอบผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นสำหรับครีเอเตอร์ ส่วน Firefly Vector Model เป็นโมเดล Generative AI ตัวแรกของโลกที่มุ่งเน้นการผลิตกราฟิกแบบเวกเตอร์ โดยนำเอาความเชี่ยวชาญด้านกราฟิกแบบเวกเตอร์และ Generative AI ของอะโดบีมาสู่เวิร์กโฟลว์ Adobe Illustrator โดยตรง ด้วยฟีเจอร์ Text to Vector Graphic ซึ่งใช้ในการสร้างโลโก้ กราฟิกสำหรับเว็บไซต์ บรรจุภัณฑ์สินค้า ไอคอน และอื่นๆ Firefly Design Model ขับเคลื่อนการสร้างดีไซน์เทมเพลตคุณภาพสูงได้อย่างฉับไว เช่น ใบปลิว โปสเตอร์ บัตรเชิญ และอื่นๆ โดยเรียกใช้งานภายใน Express ได้โดยตรง ด้วยฟีเจอร์ใหม่ Text to Template