บริษัท เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้งกรุ๊ป จำกัด (CMG) ในเครือเเซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น คว้ารางวัล Kincentric Best Employer Thailand Award ติดต่อกันเป็นปีที่ 5 โดยประกาศรางวัลในงาน Kincentric Thailand Best Employers Award and Learning Conference รางวัลดังกล่าวสะท้อนวิสัยทัศน์ของ CMG ที่มุ่งมั่นสร้างการมีส่วนร่วมและความผูกพันของพนักงานต่อองค์กร ผ่านแนวคิดหลักในปี 2566 ‘Drive the Change’ ที่เชื่อว่าพนักงานทุกคนสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีในองค์กรได้ และการทำงานแบบทีมเวิร์คคือสิ่งสำคัญที่สุดที่ช่วยให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน

โดยในงานรับรางวัล คุณเอ็ดวิน ยัป ฮอสัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป กล่าวถึงความเชื่อหลักขององค์กรที่นำไปสู่ความสำเร็จครั้งนี้ว่า “เราต้องกล้า ‘Drive the Change’ ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง และนำหน้าเสมอในโลกค้าปลีกที่มีวิวัฒนาการไม่หยุดนิ่ง ขณะเดียวกันหลักความเชื่อนี้นำไปสู่การมีส่วนร่วมของพนักงานที่แข็งแกร่ง และสร้างความภาคภูมิใจในองค์กร ซึ่งพนักงานที่มีความผูกพันและมีความสุขเป็นรากฐานสำคัญต่อการสร้างความสำเร็จของบริษัท

ความกล้าในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงและการสร้างความเป็นผู้นำในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกถือเป็นรากฐานความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงตระหนักถึงการสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจที่แข็งแกร่งในขณะเดียวกันเราก็ให้ความสำคัญกับการสร้างการมีส่วนร่วมและความภาคภูมิใจของพนักงานทั่วองค์กร

“การได้รับรางวัล Kincentric Best Employer Thailand 5 ปีซ้อน ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งต่อองค์กร เพราะสะท้อนถึงความเชื่ออันแน่วแน่ของเราว่า พนักงานคือทรัพยากรที่มีค่าที่สุด ตลอดจนแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาพนักงานอย่างต่อเนื่องจริง ๆ ที่สำคัญเราทุ่มเทกับการมอบประสบการณ์ที่เป็นเลิศให้กับพนักงานและสร้างรากฐานในการเติบโตที่ยั่งยืน ถึงแม้จะเราอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เราก็ไม่เคยลืมที่จะให้ความสำคัญกับการดูแลเอาใจพนักงานอย่างดีที่สุด และขณะที่ CMG มุ่งสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ ในอีกด้านเราก็เตรียมทีมของเรามีความพร้อมรับมือกับความท้าทายที่คาดการณ์ไม่ได้ในอนาคต”

การได้รับรางวัล Kincentric Best Employer Thailand Award 5 ปีติดต่อกัน แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนากลยุทธ์การบริหารจัดการบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการมุ่งพัฒนาทักษะพนักงานและสร้างการเติบโตในเส้นทางอาชีพ ให้พวกเขาสามารถเติบโตไปพร้อมกับบริษัทอย่างแข็งแกร่ง รางวัลนี้ยังเน้นย้ำถึงความสำเร็จของเราในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจและสนับสนุนรูปแบบการทำงานที่หลากหลาย

“Drive the Change” มี 5 ปัจจัยที่สร้างทีมได้ตอบสนองต่อพลวัตของธุรกิจค้าปลีกอย่างมีประสิทธิภาพ:

การบริหารจัดการร้านค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Store Operational Excellence): CMG จัดฝึกอบรมให้กับพนักงานทุกคนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อปลูกฝังแนวคิด Customer Centric Mindset หรือแนวทางการทำธุรกิจที่มุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง สามารถส่งมอบประสบการณ์ที่โดดเด่นและน่าจดจำแก่ลูกค้า นอกจากนี้ ยังใช้เทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมมายกระดับการบริการหน้าร้านอีกด้วย โดยได้ร่วมมือกับบริษัท Palexy ทำการวิเคราะห์ร้านค้าด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อประเมินเส้นทางการเยี่ยมชมร้านค้าของลูกค้า และสามารถระบุสิ่งที่ต้องปรับปรุงได้ เพื่อยกระดับความพึงพอใจของลูกค้าให้สูงขึ้นไปอีกระดับ ความทุ่มเทของ CMG ส่งผลให้พนักงานมีความภาคภูมิใจในฐานะองค์กรผู้นำในไทย ที่ใช้เทคโนโลยีสุดล้ำมาสร้างการเปลี่ยนแปลงในการวิเคราะห์ร้านค้าและการปฏิบัติงานของพนักงาน

การเชื่อมต่อประสบการณ์การช้อปปิ้งอย่างไร้รอยต่อ ด้วย OMNICHANNEL: CMG พัฒนาช่องทางอีคอมเมิร์ซอย่างต่อเนื่อง ทั้งบนเว็บไซต์แบรนด์ต่าง ๆ ที่อยู่ในพอร์ตของบริษัท, แพลตฟอร์ม 3P, โซเชียลคอมเมิร์ซ Facebook, Line Chat&Shop, และ Tiktok เพื่อส่งมอบประสบการณ์การซื้อสินค้าและบริการให้กับลูกค้าได้ทุกที่ทุกเวลา ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้กลุ่มลูกค้าที่ภักดีต่อแบรนด์ (brand-loyal customers) ของ CMG เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้ง ทั้งแพลตฟอร์มออนไลน์และที่หน้าร้าน ตามความต้องการและความสะดวกของลูกค้า ที่สำคัญบริษัทได้เตรียมพนักงานให้มีทักษะและความสามารถนำหน้าคู่แข่งในอุตสาหกรรม

การสรรหาลูกค้าใหม่ (New User Recruitment): CMG ใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์ข้อมูลการซื้อสินค้า (CRM data) อย่างจริงจัง (ผ่านฐานข้อมูลสมาชิก The1 ของกลุ่มเซ็นทรัล) เพื่อมากำหนดแผนและปรับปรุงการสื่อสารทางการตลาดด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ, โปรโมชั่น, และร้านค้า ทำให้บริษัทสามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ และสร้างความภักดี ปัจจัยนี้คือข้อได้เปรียบในการแข่งขันที่เป็นเอกลักษณ์ของ CMG และยังช่วยให้พนักงานได้รับทั้งข้อมูลเชิงลึกและมีทักษะเพิ่มเติม ซึ่งเพิ่มโอกาสด้าน big data ของบริษัท

การมองหาแบรนด์ใหม่ ๆ (New Brands): CMG ไม่หยุดนิ่งในมองหาแบรนด์ใหม่ ๆ มาเติมพอร์ตในประเทศไทยเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าไลฟ์สไตล์ด้านแฟชั่น ความงาม และเทคโนโลยี ทั้งนี้ การเสาะหาแบรนด์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทุกเพศ และทุกวัย การทำให้ได้มาและการดูแล

แบรนด์ใหม่ ๆ ทำให้พนักงานได้เรียนรู้ มีมุมมองใหม่ ๆ และมีโอกาสในการเติบโต

สร้างองค์กรให้พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง (Future-Ready Organization): เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์องค์กรของคนรุ่นใหม่ CMG มีการเตรียมความพร้อมของพนักงานให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของตลาดโลก บริษัทได้เพิ่มขีดความสามารถของพนักงานตอบโจทย์การทำงานในยุคดิจิทัล ด้วยการนำเสนอหลักสูตรเพื่ออัพเดทความรู้ใหม่ ๆ ในด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2566 CMG ประสบความสำเร็จกับการเพิ่มชั่วโมงการฝึกอบรมให้กับพนักงานได้ถึง +30% นอกจากโปรแกรมการเรียนรู้และการพัฒนาแล้ว บริษัทยังส่งเสริมบรรยากาศการทำงานเชิงบวกอย่างต่อเนื่อง และเน้นย้ำถึงคุณค่าของการทำงานร่วมกันเป็นทีม

“ผมเชื่อว่า 5 ปัจจัยที่กล่าวมาล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต และทำให้ CMG ยังคงมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกด้านสินค้าไลฟ์สไตล์ระดับอินเตอร์แบรนด์ที่ไม่ลืมว่าบุคลากรของเราคือกุญแจสู่ความสำเร็จ นอกจากนั้น เรานำแนวคิด “Drive the Change” มาขับเคลื่อนทีม เพื่อติดอาวุธให้พนักงานมีทักษะที่ดีที่สุด และได้รับโอกาสที่ดีที่สุด เพื่อรักษาความผูกพันต่อองค์กรและสร้างความภาคภูมิใจใน CMG ให้กับพนักงาน” คุณเอ็ดวิน กล่าวสรุป

Comments

comments