ในยุคที่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) กำลังเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนไทยหลายคน คำถามที่ตามมาคือเรื่องของ “สินเชื่อรถยนต์” การขอสินเชื่อเพื่อซื้อรถยนต์ไฟฟ้าแตกต่างจากรถยนต์สันดาปที่เราคุ้นเคยหรือไม่? หรือมีสิทธิประโยชน์อะไรที่พิเศษกว่ากัน? บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจความเหมือนและความต่างของสินเชื่อรถยนต์ทั้งสองประเภท เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจก่อนออกรถคันใหม่

สินเชื่อรถยนต์คืออะไร?

สินเชื่อรถยนต์ (Car Loan) คือวงเงินสินเชื่อที่สถาบันการเงินอนุมัติให้แก่ผู้ขอสินเชื่อเพื่อใช้ในการซื้อรถยนต์ โดยทั่วไปแล้วรถยนต์คันนั้นจะถูกใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในการขอสินเชื่อ ผู้กู้จะต้องผ่อนชำระคืนพร้อมดอกเบี้ยเป็นงวดๆ ตามที่ตกลงไว้ในสัญญา ซึ่งกรรมสิทธิ์ในตัวรถจะถูกโอนเป็นของผู้กู้เมื่อชำระหนี้หมด

ความเหมือนและความแตกต่างของสินเชื่อรถยนต์สันดาปและรถยนต์ไฟฟ้า

แม้ว่าในหลักการพื้นฐานจะคล้ายคลึงกัน แต่สินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้ามักจะมีเงื่อนไขและโปรโมชั่นที่แตกต่างออกไปจากรถยนต์สันดาป เพื่อสนับสนุนนโยบายของภาครัฐและส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด มาดูกันว่าทั้งสองประเภทมีความเหมือนและต่างกันอย่างไร 

ความเหมือน:

  • หลักการพิจารณาสินเชื่อ: ทั้งสองแบบยังคงใช้หลักเกณฑ์พื้นฐานเดียวกันในการพิจารณาอนุมัติ เช่น รายได้ของผู้กู้, ภาระหนี้สิน, เครดิตบูโร, และประวัติการเดินบัญชีย้อนหลัง
  • ระยะเวลาผ่อนชำระ: โดยทั่วไปมีระยะเวลาผ่อนชำระให้เลือกใกล้เคียงกัน ตั้งแต่ 12 เดือนไปจนถึง 84 เดือน (7 ปี) ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละสถาบันการเงิน
  • เอกสารประกอบการขอสินเชื่อ: เอกสารที่ใช้ยื่นขอสินเชื่อจะคล้ายคลึงกัน เช่น สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, สลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองเงินเดือน, และ Statement ย้อนหลัง

ความแตกต่าง:

  • อัตราดอกเบี้ย: เป็นข้อแตกต่างที่ชัดเจนที่สุด สถาบันการเงินส่วนใหญ่มักจะเสนออัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า สำหรับสินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อกระตุ้นยอดขายและส่งเสริมนโยบายภาครัฐ ทำให้ค่าใช้จ่ายโดยรวมในการซื้อรถ EV ถูกลง
  • วงเงินสินเชื่อ: โดยทั่วไปแล้วสถาบันการเงินมีแนวโน้มที่จะให้วงเงินอนุมัติที่สูงกว่า สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า อาจสูงถึง 90-100% ของราคารถ เพื่อให้ผู้ซื้อจ่ายเงินดาวน์น้อยลงหรือไม่ต้องจ่ายเลย ทำให้การเป็นเจ้าของรถ EV ทำได้ง่ายขึ้น
  • ค่าธรรมเนียม: บางสถาบันการเงินอาจมีการยกเว้นหรือลดค่าธรรมเนียม บางอย่างสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เช่น ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์หรือค่าธรรมเนียมการจัดการสินเชื่อ ทำให้ค่าใช้จ่ายโดยรวมลดลง
  • คุณสมบัติรถยนต์: สินเชื่อรถยนต์สันดาปสามารถใช้ได้กับทั้งรถใหม่และรถมือสอง ในขณะที่สินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันส่วนใหญ่จะเน้นสำหรับรถยนต์ใหม่เป็นหลัก เนื่องจากตลาดยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น
  • โปรโมชั่นพิเศษ: สถาบันการเงินและบริษัทรถยนต์มักจะมีโปรโมชั่นพิเศษร่วมกัน สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เช่น อัตราดอกเบี้ย 0% สำหรับช่วงเวลาสั้นๆ, ของแถมเพิ่มเติม, หรือการผ่อนชำระแบบบอลลูน (Balloon Payment) ซึ่งเป็นโปรโมชั่นที่หาได้ยากในรถยนต์สันดาป
  • การประเมินราคารถยนต์: เนื่องจากรถยนต์สันดาปมีตลาดรถมือสองที่กว้างขวาง ทำให้การประเมินราคาทำได้ง่ายและแม่นยำกว่า ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าเป็นตลาดใหม่ ทำให้การประเมินราคาเพื่อขอสินเชื่ออาจต้องใช้ข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญ หรือพิจารณาจากราคาขายต่อที่ประเมินโดยสถาบันการเงิน

การเลือกสินเชื่อรถยนต์ที่เหมาะสมคือการตัดสินใจที่ต้องทำอย่างรอบคอบ แม้ว่าสินเชื่อรถยนต์สันดาปและรถยนต์ไฟฟ้าจะมีหลักการคล้ายกัน แต่สินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้ามักมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์ที่เหนือกว่า เช่น อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าและวงเงินอนุมัติที่สูงกว่า ดังนั้น การศึกษาและเปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายๆ ที่ก่อนตัดสินใจจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้การเป็นเจ้าของรถในฝันของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและคุ้มค่าที่สุด



Comments

comments