ABB เปิดเผยผลการสำรวจ Energy Transition Readiness Index 2025 เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2568 สะท้อนว่า ประเทศไทยมีศักยภาพสูงในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานในเอเชีย ท่ามกลางกระแสโลกที่กำลังเร่งสู่พลังงานสะอาดและความยั่งยืน
ไทยเร่งเครื่องสู่พลังงานสะอาด
ผลสำรวจชี้ว่า กว่า 80% ของผู้นำด้านพลังงานในไทยยังเดินหน้าตามแผน Energy Transition แม้จะมีความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์ ขณะที่ 77% คาดว่าการใช้พลังงานหมุนเวียนจะเพิ่มขึ้นกว่า 20% ภายใน 5 ปี ซึ่งสอดคล้องกับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP2024) ที่ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนจาก 36% เป็น 51% ภายในปี 2580
เทคโนโลยีและ AI: คีย์เร่งการเปลี่ยนผ่าน
65% ของผู้นำธุรกิจในไทยเชื่อว่าเทคโนโลยีปัจจุบันเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ โดยเฉพาะ AI ที่ 69% เชื่อมั่นว่าจะมีบทบาทเร่งการเปลี่ยนผ่านพลังงาน ABB ยกตัวอย่างความสำเร็จ เช่น การใช้ Advanced Process Control (APC) ในโรงงาน IRPC ที่ช่วยลดแรงดันไอน้ำลงกว่า 50% และการใช้ระบบบริหารจัดการพลังงานไฮบริดร่วมกับ SCADA และ OPTIMAX ในโครงการโซลาร์ลอยน้ำที่เขื่อนอุบลรัตน์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและเสถียรภาพการผลิตไฟฟ้า
คุณจตุพร วานิชสุขสมบัติ ผู้อำนวยการธุรกิจโพรเซส ออโตเมชัน บริษัท เอบีบี ออโตเมชั่นประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “เทคโนโลยีอย่าง AI และการควบคุมอัตโนมัติจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และช่วยให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น”
ความท้าทายและความร่วมมือ
แม้จะมีพัฒนาการเชิงบวกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ไทยยังเผชิญปัญหาสำคัญ เช่น 61% ขององค์กรยังไม่มีเป้าหมาย Net-Zero และกว่า ครึ่งหนึ่งขาดบุคลากร Green Talent จำเป็นต้องเร่งสร้างทักษะใหม่ (Reskill/Upskill) และพัฒนาคนรุ่นใหม่ควบคู่กันไป
ABB ย้ำว่าการเดินหน้าสู่อนาคตพลังงานสะอาดต้องอาศัย ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ เอกชน มหาวิทยาลัย หรือประชาชน โดยมีตัวอย่างความสำเร็จในระดับโลกอย่าง Dogger Bank Wind Farm Project ที่อังกฤษซึ่งวิศวกรไทยมีส่วนร่วม ตลอดจนโครงการโซลาร์ลอยน้ำของ EGAT ในประเทศ
เสียงจาก ABB
นาย Anders Maltesen ประธานฝ่ายอุตสาหกรรมพลังงาน ABB ประจำภูมิภาคเอเชีย กล่าวว่า
“ประเทศไทยพร้อมที่จะเป็นผู้นำด้านพลังงานในภูมิภาค แต่ต้องเสริมแกร่งด้านกลยุทธ์และพัฒนาทักษะบุคลากร ด้วยการลงทุนที่ตรงจุดและความร่วมมือที่แน่นแฟ้นเพื่อลดช่องว่างที่ยังมีอยู่”
สรุป
การเปลี่ยนผ่านพลังงานไม่ใช่เพียงเรื่องเทคโนโลยีหรือนโยบาย แต่คือการร่วมมือและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของทุกภาคส่วน หากไทยเดินหน้าอย่างมั่นคง จะสามารถบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน และก้าวสู่การเป็นผู้นำการเปลี่ยนผ่านพลังงานในเอเชียได้อย่างแท้จริง