กรุงเทพฯ (10 มิถุนายน 2020)  – บริษัท อินแกรม ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด  ผู้จัดจำหน่ายสินค้าเทคโนโลยี ขอนำเสนอผลิตภัณฑ์  Cohesity ซึ่งเป็นผู้นำด้าน Hyperconverged Storage เป็นระบบใหม่ที่มีความสามารถทั้งด้านการสำรองข้อมูล กู้คืนระบบ และจัดการข้อมูลระดับองค์กร ที่รองรับการใช้งานได้หลากหลายระบบไม่ว่าจะเป็น Physical Server, Virtual Machine, Big Data บน Hadoop, ฐานข้อมูลแบบ NoSQL, แอพพลิเคชั่นภายใต้ Containers ของ Kubernetes, รวมทั้งระบบแบบ Software as a Service (SaaS) เช่น Microsoft 365 เป็นต้น

นับเป็นครั้งแรกที่ข้อมูล และแอพพลิเคชั่นทั้งหมดเหล่านี้ ได้รับการปกป้องและจัดการผ่านหน้าเว็บศูนย์กลางได้ ช่วยให้องค์กรลดความเสี่ยงที่ข้อมูลจะสูญหาย, กู้คืนระบบได้รวดเร็วมากขึ้น, รวมทั้งยกระดับความปลอดภัยของข้อมูล และรองรับมาตราฐานการจัดเก็บข้อมูลได้ภายในตัวเดียว

ปัจจุบันทั้ง Big Data บน Hadoop, ฐานข้อมูลแบบ NoSQL, Containers, และ SaaS ต่างเป็นองค์ประกอบที่พบได้ทั่วไปของระบบไอทีในองค์กร แต่โซลูชั่นที่สามารถปกป้อง Workload ยุคใหม่เหล่านี้มักทำงานแยกกัน ทำให้เกิดความซับซ้อนในการจัดการ และอาจส่งผลถึงค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น รวมถึงปัญหาที่เกิดจากการเก็บข้อมูลที่อยู่ในหลายที่ ซึ่งอาจสร้างปัญหาให้องค์กรได้ในอนาคตได้อีกด้วย

Cohesity ได้นำการจัดการข้อมูลที่ซับซ้อนมาจัดการให้ง่ายและทันสมัย ด้วยการรวมเอาความสามารถในการสนับสนุนระบบ Hypervisor ชั้นนำ (VMware, Nutanix AHV, Microsoft Hyper-V), ระบบฐานข้อมูลและแอพพลิเคชั่น (Oracle, SQL, SAP HANA), รวมถึง Workload ต่าง ๆ มาเป็นแพลตฟอร์มแบบ Software-Defined เพียงหนึ่งเดียว ซึ่งโซลูชั่นนี้จะให้ความสามารถในการปกป้อง และการป้องกันความเสียหายของข้อมูล รวมถึงความสามารถในการกู้คืนระบบได้อย่างรวดเร็ว และความสามารถในการจัดการที่มีศักยภาพเหนือขึ้นมาอีกระดับ แตกต่างจากเดิมที่เคยมีมา

การปกป้องผ่านเว็บสำหรับ Workload ของ Hadoop และ NoSQL

จากการควบรวมกิจการระหว่าง Cohesity กับ Imanis Data ทำให้ Cohesity มีความสามารถในการสำรองข้อมูล และการกู้คืนระบบ รวมถึงจัดการข้อมูลได้กับ Workload เช่น Hadoop Distributed File System (HDFS) และฐานข้อมูลแบบ NoSQL  ซึ่งก่อนหน้านี้เคยทำได้เฉพาะกับฐานข้อมูลแบบเดิมเท่านั้น ความสามารถใหม่เหล่านี้จะผลักดันให้องค์กรยุคใหม่ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีอยู่ได้ดังต่อไปนี้

• ทำให้การจัดการข้อมูลง่ายมากขึ้น สำหรับ Workload บน HDFS และฐานข้อมูลแบบ NoSQL อย่างเช่น MongoDB, Cassandra, CouchBaseDB, Hbase โดยสามารถจัดการทุกอย่างได้ผ่านแพลตฟอร์มเดียวกัน

• ให้ความคล่องตัวในการสำรองและกู้คืนระบบ ด้วยการสำรองข้อมูลแบบ Agentless  และเข้าใจถึงความสัมพันธ์กับแต่ละแอพพลิเคชั่น

• รองรับข้อกำหนดของการเก็บข้อมูลต่าง ๆ เช่น สามารถค้นหาประวัติการ Copy ข้อมูลที่สำคัญได้ หรือ การจัดการข้อมูลเพื่อใช้สำหรับ พัฒนาและทดสอบระบบ

สามารถสำรองข้อมูลและกู้คืนแอพพลิเคชั่นแบบ Containers ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว เหมือนการสำรองข้อมูลและกู้คืนระบบก Virtual Machine

Cohesity มีความสามารถด้านการสำรองและกู้คืนระบบ สำหรับแอพพลิเคชั่นที่ใช้ Containers ของ Kubernetes ในระดับเดียวกันที่ใช้สำรองข้อมูลและกู้คืนระบบกับ Virtual Machine ในการทำงานร่วมกับ Kubernetes ตั้งแต่เริ่มต้น ทำให้ Cohesity สามารถปกป้องข้อมูลและแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่ทำงานบน Containers ได้ ทำให้องค์กรต่าง ๆ สามารถสำรองระบบของแอพพลิเคชั่นทั้งหมดได้ ไม่ใช่แค่การสำรองข้อมูลเพียงอย่างเดียว

การสำรองข้อมูลและระบบของแอพพลิเคชั่นที่อยู่ใน Containers นั้น ทำในรูปแบบ Application-Consistent และเป็นการทำงานในรูปแบบ “Incremental forever” หมายความว่า ระบบจะทำการสำรองข้อมูลและระบบอย่างสมบูรณ์เพียงแค่ครั้งเดียว ( Full Backup ) และในครั้งๆ ต่อไป ก็จะเป็นการสำรองระบบเฉพาะส่วนที่เปลี่ยนแปลงเท่านั้น ซึ่งช่วยลดเวลาในการสำรองข้อมูลและระบบ นอกจากนี้การกู้คืนระบบยังสามารถทำได้ในหลายช่วงเวลา (Restore Point)  รองรับการทำ Disaster Recovery และ ย้ายระบบ

สนับสนุนการสำรองข้อมูลในแอพพลิเคชั่นแบบ SaaS

Cohesity ช่วยให้องค์กรที่ใช้แอพพลิเคชั่นแบบ SaaS ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ด้วยการขยายความสามารถในการสำรองและกู้คืนระบบไปยัง Microsoft Office 365 ที่รวมไปถึง Microsoft OneDrive ทำให้ลูกค้าจะได้รับการป้องกันในกรณีอาจเกิดเหตุการณ์ข้อมูลสูญหายหรือติดไวรัสได้ รวมทั้งช่วยสนับสนุนระบบ E-Discovery และข้อกำหนดต่าง ๆ ในการเก็บข้อมูล โดย Cohesity จะช่วยทำให้องค์กร สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนด และมีความปลอดภัยของข้อมูลมากขึ้นกว่าเดิม โดยสามารถทำงานร่วมกับ Azure Active Directory ทำให้ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าการสำรองข้อมูลและกู้คืนระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการทำงานในรูปแบบนี้เป็นการขยายการทำงานจากเดิม ซึ่งสามารถทำงานได้บน Microsoft Office 365 Exchange

Comments

comments