กรุงเทพฯ, ประเทศไทย 26 มกราคม 2564 การ์ทเนอร์คาดการณ์แนวโน้มการใช้จ่ายไอทีทั่วโลกปี 2564 จะมีมูลค่า 3.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็น 6.2% จากเดิมที่ติดลบ 3.2% ในปี 2563 เป็นผลสืบมาจากผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศ (CIO) ให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีและบริการต่าง ๆ และถือเป็นภารกิจสำคัญสุดในช่วงการระบาดระยะต้น ๆ

การปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาเพื่อใช้ทำงานและการเรียนจากระยะไกลได้สร้างปรากฏการณ์การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วอย่างไม่คาดคิดในปี 2563  รวมถึงการใช้ชีวิตวิถีใหม่ช่วงล็อคดาวน์และมาตรการเว้นระยะห่างที่เปรียบเสมือนดาบสองคม ซึ่งยังเป็นปัจจัยช่วยลดผลกระทบเชิงลบของโรคระบาดนี้ต่อการใช้จ่ายด้านไอทีช่วงปีใหม่

สิ่งที่ซีไอโอในปี 2564 จะมีมาตรการที่มีดุลยภาพต่อกันนั่นคือการเก็บเงินสดในขณะเดียวกันก็ต้องขยายระบบไอทีนายจอห์น-เดวิด เลิฟล็อค รองประธานฝ่ายวิจัย บริษัท การ์ทเนอร์ กล่าวเมื่อเศรษฐกิจกลับคืนสู่สภาวะปกติ ธุรกิจก็จะมุ่งลงทุนกับไอทีตามแผนเพื่อสร้างการเติบโตไม่ใช่เป็นการลงทุนตามรายได้ ณ ปัจจุบัน โดยในปีนี้ธุรกิจดิจิทัลที่มีโปรเจกต์ที่เห็นผลในระยะสั้นจะได้รับเงินทุนและความสนใจมากกว่าจากผู้บริหารและคณะกรรมการคัดเลือก

คาดว่าการใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศทุกเซกเมนต์จะกลับมาเติบโตในปี 2564 (ดูตารางที่ 1) ซอฟต์แวร์ระดับองค์กรจะเติบโตสูงสุด (8.8%) จากการพัฒนาและปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงานระยะไกล โดยกลุ่มอุปกรณ์ดีไวซ์จะมีอัตราการเติบโตรองลงมา (8%) โดยมีมูลค่าถึง 705.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ตารางที่ 1. คาดการณ์มูลค่าการใช้จ่ายด้านไอทีทั่วโลก (หน่วย: ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) 

 

มูลค่าการใช้จ่าย 

ปี 2563 

มูลค่าการเติบโต

ปี 2563(%)

มูลค่าการใช้จ่าย 

ปี 2564

มูลค่าการเติบโต

ปี 2564 (%)

มูลค่าการใช้จ่าย 

ปี 2565

มูลค่าการเติบโต

ปี 2565 (%)

ดาต้าเซ็นเตอร์

214,985

0.0

228,360

6.2

236,043

3.4

ซอฟต์แวร์ระดับองค์กร

465,023

-2.4

505,724

8.8

557,406

10.2

อุปกรณ์ดีไวซ์

653,172

-8.2

705,423

8.0

714,762

1.3

บริการทางด้านไอที 

1,011,795

-2.7

1,072,581

6.0

1,140,057

6.3

บริการด้านการสื่อสาร

1,349,891

-1.7

1,410,745

4.5

1,456,637

3.3

มูลค่าการใช้จ่ายด้านไอทีทั้งหมด

3,694,867

-3.2

3,922,833

6.2

4,104,906

4.6

ที่มา: การ์ทเนอร์ (มกราคม 2564)

มีปัจจัยหลากหลายที่ช่วยผลักดันให้ตลาดดีไวซ์เติบโตสูงขึ้นนายเลิฟล็อคกล่าวการที่ประเทศต่าง ๆ ยังคงใช้รูปแบบการศึกษาจากระยะไกลต่อเนื่องตลอดปีนี้ จะส่งผลให้ความต้องการแท็บเล็ตและแล็ปท็อปของนักเรียนเพิ่มสูงขึ้น เช่นเดียวกับที่หลายองค์กรกำลังดำเนินการให้การทำงานระยะไกลของพนักงานเป็นเรื่องเป็นราวมากขึ้น โดยที่มาตรการกักตัวอยู่บ้านรวมถึงปัจจัยด้านเสถียรภาพของงบประมาณช่วยให้ซีไอโอได้กลับมาลงทุนในสินทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบเมื่อปี 2563 อีกครั้ง

จนถึงปี 2567 ธุรกิจต่าง ๆ จะถูกบังคับให้เร่งแผนการเปลี่ยนแปลงธุรกิจไปสู่ดิจิทัลอย่างน้อยห้าปีเพื่อเอาตัวให้รอดในโลกหลังโควิด –19 โดยการทำงานระยะไกลและช่องทางสื่อสารดิจิทัลจะได้รับการยอมรับและนำมาใช้อย่างถาวร การ์ทเนอร์คาดการณ์การใช้จ่ายด้านไอทีทั่วโลกที่เกี่ยวข้องกับการทำงานระยะไกลจะมีมูลค่ารวมสูงถึง 332.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2564 เพิ่มขึ้น 4.9% จากปี 2563

ช่วงปลายปีที่แล้วจนถึงต้นปี 2564 ธุรกิจดิจิทัลนำเทคโนโลยีที่เป็นเทรนด์ต่าง ๆ มาปรับใช้ได้อย่างโดดเด่น อาทิ  การประมวลผลผ่านคลาวด์, การใช้แอปพลิเคชันทางธุรกิจ, เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยและเพิ่มประสบการณ์ลูกค้าระดับแถวหน้า รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพให้ความคิดริเริ่มใหม่ ๆ เช่น ระบบไฮเปอร์ออโตเมชั่น ซึ่งจะยังเดินหน้าพัฒนาต่อและให้ความสำคัญกับการลดต้นทุนแก่โปรเจกต์เหล่านั้น รวมถึงขจัดงานในกระบวนการที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปนายเลิฟล็อคกล่าว

แม้จะมีการฉีดวัคซีน COVID-19 ให้กับประชาชนแล้วแต่ไวรัสนี้ยังคงแทรกแซงเสถียรภาพรัฐบาลต่าง ๆ ตลอดปี 2564 โดยมีปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 เช่น การถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร (หรือ Brexit) และความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ – จีน ซึ่งจะเป็นปัจจัยยับยั้งการฟื้นตัวในบางภูมิภาค

โดยภาพรวมการฟื้นตัวของตลาดไอทีระดับโลกจะยังไม่กลับไปอยู่ในระดับเดียวกันกับปี 2562 จนกว่าจะถึงปี 2565 แม้หลายประเทศอาจจะฟื้นตัวเร็วกว่า แต่ในระยะยาวอุตสาหกรรมที่เป็นแหล่งรวมผู้คน อาทิ ร้านอาหารและภัตตาคารต่างๆ การเดินทางท่องเที่ยว และความบันเทิงจะยังมีแนวโน้มเติบโตต่ำ

โควิด-19 ได้เปลี่ยนความสามารถทางเทคโนโลยีหรือที่การ์ทเนอร์เรียกว่า techquilibrium ให้กับหลายอุตสาหกรรมนายเลิฟล็อคกล่าวยกระดับความสามารถของกระบวนการไปสู่ดิจิทัลภายในองค์กร, ห่วงโซ่อุปทาน, การโต้ตอบกับลูกค้าและคู่ค้า รวมถึงการส่งมอบบริการที่กำลังมาในปี 2564 ให้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น และเปลี่ยนบทบาทไอทีจากการสนับสนุนธุรกิจไปสู่การเป็นธุรกิจ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงใหญ่สุดของปีนี้ คือ ไอทีจะได้รับเงินสนับสนุนอย่างไร มากกว่ากังวลกับจำนวนเงินทุนที่ใช้สนับสนุนด้านไอที

ชมผลวิเคราะห์อย่างละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มการใช้จ่ายด้านไอทีทั่วโลกที่เว็บบินาร์ของการ์ทเนอร์ ในหัวข้อ “IT Spending Forecast, 4Q20 Update: Recovery in 2021 but Recovered in 2022.” เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มใหม่ ๆ ความท้าทายธุรกิจในอนาคต และแนวทางปฏิบัติสำหรับซีไอโอรวมถึงผู้นำไอทีในอีบุ๊คของการ์ทเนอร์ Top Priorities for IT: Leadership Vision for 2021.

การคาดการณ์แนวโน้มการใช้จ่ายด้านไอทีของการ์ทเนอร์ ใช้วิธีการวิเคราะห์ยอดขายอย่างเข้มข้นจากผู้ค้าหลายพันรายครอบคลุมผลิตภัณฑ์และบริการด้านไอทีทั้งหมด การ์ทเนอร์ใช้เทคนิคการวิจัยขั้นต้นซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยแหล่งข้อมูลทุติยภูมิที่เชื่อถือได้ในการสร้างฐานข้อมูลที่ครอบคลุมข้อมูลขนาดตลาดซึ่งเป็นฐานการพยากรณ์

การคาดการณ์มูลค่าการใช้จ่ายด้านไอทีของการ์ทเนอร์ รายไตรมาสนำเสนอมุมมองที่แตกต่างครอบคลุมกลุ่มฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ บริการทางด้านไอทีและในกลุ่มของการสื่อสารโทรคมนาคม รายงานเหล่านี้ช่วยให้ลูกค้าของการ์ทเนอร์ ตระหนักถึงโอกาสและความท้าทายทางการตลาด  ลูกค้าของการ์ทเนอร์สามารถอ่านรายงานการคาดการณ์การใช้จ่ายด้านไอทีล่าสุดได้จาก Gartner Market Databook, 4Q20 Update  การคาดการณ์การใช้จ่ายไอทีไตรมาสนี้รวมลิงก์ข้อมูลของรายงานการใช้จ่ายด้านไอทีล่าสุด webinar blog posts และข่าวประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ไว้ด้วย

Comments

comments