หลังจาก AIS เปิดบริการสายด่วน 1185 ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน หรือ AIS Spam Report Center ที่นับว่าเป็นผู้ให้บริการรายแรกในธุรกิจโทรคมนาคม ไปเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา โดย AIS ได้ดำเนินการรับเรื่องร้องเรียนจากลูกค้า รวมถึงได้ตรวจสอบข้อมูลพบมิจฉาชีพทั้งเบอร์โทรและ SMS แล้วกว่า 1,000 ราย ซึ่งได้ทำการส่งข้อมูลดังกล่าวไปให้กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ตำรวจไซเบอร์ ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่ดูแลปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศหรือภัยไซเบอร์ ทำให้วันนี้บริการสายด่วน 1185 เข้าไปช่วยยกระดับขีดความสามารถการทำงานของตำรวจไซเบอร์ให้สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ล่าสุดตำรวจไซเบอร์ได้รวบรวมเอกสารขอข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงทยอยออกหมายเรียกพยานเอกสาร เพื่อประกอบการดำเนินคดีตามกฎหมายขั้นสูงสุดต่อไป เพื่อไม่ให้สร้างความเดือดร้อนให้กับลูกค้าและประชาชนได้อีก

นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าทั่วไป AIS กล่าวว่า “จากการทำงานเชิงรุกของ AIS ในการมุ่งแก้ไขปัญหาภัยไซเบอร์จากกลุ่มมิจฉาชีพ ตอกย้ำเจตนารมณ์การเป็นเครือข่ายปลอดภัยสำหรับคนไทย ผ่านการเปิดตัวสายด่วน 1185 ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน หรือ AIS Spam Report Center ให้ลูกค้า AIS สามารถโทรฟรีเพื่อแจ้งเบอร์โทรหรือ SMS มิจฉาชีพเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ถึงวันนี้เราได้ตรวจสอบข้อมูลทั้งเบอร์โทรและ SMS พบว่าเป็นมิจฉาชีพแล้วกว่า 1,000 ราย โดยเราได้ดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อแจ้งผลกลับไปยังลูกค้า และระงับสัญญาณเบอร์โทรและ SMS ภายหลังที่ได้ทำการตรวจสอบพบการกระทำผิดโดยทันที พร้อมทั้งส่งข้อมูลมิจฉาชีพไปยังกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ตำรวจไซเบอร์ควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายสูงสุดในการปกป้องลูกค้าให้สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย และมุ่งดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิดตามกฎหมายขั้นสูงสุดเพื่อแก้ปัญหาที่ต้นตอ”

ทางด้าน พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ กล่าวว่า “ต้องขอขอบคุณทาง AIS ที่ขับเคลื่อนการทำงานเชิงรุกและให้ความสำคัญกับปัญหาภัยด้านไซเบอร์ที่ประชาชนกำลังได้รับความเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้ ด้วยการเปิดสายด่วน 1185 ที่รับเรื่องร้องเรียนเบอร์โทรและ SMS มิจฉาชีพ ส่งผลให้ภาคส่วนต่างๆ มีความตื่นตัวและเข้ามาร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว และจากการทำงานร่วมกับ AIS อย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เราได้รับข้อมูลมิจฉาชีพที่กระทำความผิดละเมิดการใช้งานของประชาชน ซึ่งช่วยให้เราสามารถติดตามผู้กระทำผิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม่นยำ และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยขณะนี้เราได้ทยอยรวบรวมเอกสารขอข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการทยอยออกหมายเรียกพยานและผู้ต้องหาเพื่อมาดำเนินคดีกับมิจฉาชีพตามกฎหมายต่อไป”


AIS และ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ตำรวจไซเบอร์ ยังคงทำงานร่วมกันอย่างสอดประสานเพื่อเอาผิดกับมิจฉาชีพที่สร้างความเดือดร้อนให้กับลูกค้าและประชาชนอย่างจริงจัง มุ่งแก้ปัญหาให้ถึงต้นตอ ให้ลูกค้ามีความอุ่นใจจากการใช้งานบนโลกไซเบอร์ โดยลูกค้า AIS สามารถแจ้งเบอร์โทรและข้อความ SMS มิจฉาชีพ ได้ทางสายด่วน 1185 ได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง

Comments

comments