• ศูนย์ปฏิบัติการ ตั้งอยู่ใจกลาง กรุงเทพมหานคร ซึ่งศูนย์แห่งนี้ นับเป็นป็นสถานที่หลัก ที่ใช้มุ่งเน้นพัฒนา ทดลอง และวิเคราะห์โซลูชันระบบขนส่งดิจิทัล (Digital Mobility) และอาณัติสัญญาน (Signaling) เพื่อยกระดับความสามารถของบริษัท ด้านการขนส่งอัจฉริยะ (smart mobility) 
  • ศูนย์ปฏิบัติการที่ขยายขึ้นใหม่นี้ มีพื้นที่มากกว่า 277 ตร.. ทำให้มีพื้นที่โดยรวมของห้องปฏิบัติงานในไทยมากกว่า 2,000 ตร.ซึ่งสามารถรองรับการดำเนินงาน ได้มากกว่า 100 ครงการพร้อม ๆกัน 
  • นโยบายการขยายตัวเพื่อเพิ่มศักยภาพของบริษัท  นำไปสู่ การเติบโตอย่างต่อเนื่องของ  ศูนย์วิศวกรรมระดับโลก ในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันทางบริษัทได้มีการการจ้างพนักงานรวมแล้วกว่า 1,000 คน โดยมีวิศวกรที่มีความรู้และประสบการณ์เฉพาะด้านมากกว่า 700 คน 



    Alstom
     
    ผู้นำระดับโลกด้านระบบขนส่งอัจฉริยะที่ยั่งยืน ได้เปิดตัวศูนย์ Digital Mobility Lab แห่งใหม่ ในกรุงเทพมหานคร ป็นการตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย โดยศูนย์แห่งใหม่นี้ขยายพื้นที่มากกว่า 277 ตร.ทำให้มีพื้นที่สำหรับปฏิบัติงานในไทยโดยรวมมากกว่า 2,000 ตร..ซึ่งสามารถรองรับการดำเนินโครงการขนานกันไป ได้มากกว่า 100 โครงการ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน (รฟม.) นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ และฯพณฯท่านเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย Jean-Claude Poimboeuf ได้เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีเปิดศูนย์ปฏิบัติการ : Digital Mobility Lab ซึ่งการเข้าร่วมพิธีนี้นับเป็นความร่วมมืออันดี ระหว่างฝรั่งเศสและไทย ด้านความล้ำสมัยของเทคโนโลยีเเละนวัตกรรมขั้นสูง 

    ศูนย์ปฏิบัตการอันทันสมัยที่สุดแห่งนี้ เป็นการขยายพื้นที่ศูนย์ปฏิบัติการของ ศูนย์วิศวกรรมโลก ในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันมีผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 1,000 คน โดยมีวิศวกรที่มากไปด้วยประสบการณ์ถึง 700 คน 

    ศูนย์Digital Mobility Lab แห่งใหม่นี้มีเป้าหมายที่จะบ่มเพาะบุคลากรด้านเทคโนโลยีคุณภาพสูง และพัฒนาความสามารถด้านวิศวกรรมด้านระบบอาณัติสัญญาน และ กระบวนการเชื่อมโยงประสานงานระบบคอมพิวเตอร์และแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ต่างๆเข้าด้วยกันเป็นระบบเดียว และสามารถมั่นใจว่าระบบย่อยทำงานร่วมกันเป็นระบบได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย สำหรับโครงการขนส่งระบบรางทั่วโลก ศูนย์แห่งนี้ไม่เพียงให้บริการลูกค้าในประเทศเท่านั้นแต่ยังมุ่งให้บริการลูกค้าAlstom ทั่วทุกมุมโลกทั้งในออสเตรเลีย , อียิปต์,เยอรมนี ,ฟิลิปปินส์สิงคโปร์ และประเทศอื่นๆ อีกมากมาย 

ในระหว่างพิธีเปิดงานคุณToby Tiberghie กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกกล่าวว่า "ทั้งศูนย์ปฏิบัติการ Digital Mobility Lab แห่งใหม่และการเติบโตของ ศูนย์วิศวกรรมโลก ของเราในประเทศไทย ได้เน้นย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการยกระดับ เพื่อรองรับเทคโนโลยี สำหรับระบบนิเวศการเคลื่อนย้ายในประเทศไทย นับเป็นสิ่งที่มีนัยสำคัญ ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ระยะยาวของ 

Alstom ในประเทศไทย และเรามุ่งมั่นที่จะให้บริการคนไทยอย่างตั้งใจพร้อมทั้งลงทุนเพื่อให้เกิดการเติบโตและพัฒนาความสามารถของบุคลากรในประเทศเพื่อให้บรรลุมาตรฐานความเป็นเลิศระดับโลก” 

Alstom นำเสนอโซลูชันด้านระบบการขนส่งอัจฉริยะที่ยั่งยืนในประเทศไทยมานานกว่า 40 ปี โดยไทยเป็นประเทศหนึ่งจากทั้งสองประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่เป็นที่ตั้งศูนย์ปฏิบัติการระดับโลกของบริษัทในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Alstom มีบทบาทสำคัญในการส่งมอบโครงการด้านระบบรางและการคมนาคมที่สำคัญภายในประเทศ ได้แก่ ระบบครบวงจรแบบเทิร์นคีย์ สำหรับรถไฟฟ้าโมโนเรลสายแรกของกรุงเทพฯระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) แห่งแรกของกรุงเทพฯรวมถึงระบบอาณัติสัญญานขั้นสูงสำหรับเส้นทางขนส่งมวลชนในเมืองหกสายและบางส่วนในโครงข่ายทางรถไฟสายหลัก 

เกี่ยวกับ Alstom  

Alstom เป็นผู้นำสังคมปลอดคาร์บอน สู่อนาคต โดยลดการใช้พลังงาน ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์  ทางเราพัฒนาและวางแผนการตลาดโซลูชันระบบขนส่งซึ่งเป็นรากฐานอันยั่งยืนสำหรับอนาคตของการคมนาคมขนส่งตั้งแต่รถไฟความเร็วสูง รถไฟใต้ดินโมโนเรลรถราง ไปจนถึงระบบการบริหารจัดการแบบเบ็ดเสร็จ บริการโครงสร้างพื้นฐานระบบอาณัติสัญญาณและระบบการขนส่งแบบดิจิทั  Alstom มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าได้เลือกสรร มากที่สุดในอุตสาหกรรม อีกทั้งยังพาหนะที่ให้บริการเชิงพาณิชย์ถึง150,000 คันทั่วโลกได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญอันเป็นที่ประจักษ์ของบริษัทในด้านการบริหารจัดการโครงการนวัตกรรมการออกแบบและเทคโนโลยี  

ในปี2564 บริษัทยังได้รับการจัดอันดับในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์โลกและยุโรปเป็นครั้งที่11 ติดต่อกัน    

Alstom มีสำนักงานใหญ่ในประเทศฝรั่งเศสและสำนักงานอื่นๆ ในอีก70 ประเทศทั่วโลก มีพนักงานมากกว่า74,000 คน กลุ่มบริษัทมีรายได้15.5 พันล้านยูโรในปีงบการเงินณวันที่31 มีนาคม .. 2565 

ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากwww.alstom.com 

Comments

comments