ดัลลัส –  เทรนด์ไมโคร (TYO: 4704; TSE: 4704) ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นความปลอดภัยทางไซเบอร์แถลงในวันนี้ว่า บริษัท NTT DOCOMO ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ชั้นนำของญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการเทคโนโลยีเครือข่ายโทรคมนาคมทั้ง 3G, 4G, และ 5G ที่ล้ำสมัยมากที่สุดในโลก เตรียมเปิดตัวโซลูชั่นสำหรับปกป้องอุปกรณ์ IoT ที่ใช้เครือข่ายโมบายล์ของ DOCOMO โดยทำงานร่วมกับโซลูชั่นด้านความปลอดภัยของเทรนด์ไมโคร

การปกป้องรูปแบบใหม่นี้มีขึ้นครั้งแรกในบริการล่าสุดอย่าง DOCOMO Cloud Platform Network Security Serviceซึ่งเป็นโซลูชั่นที่ผสานการทำงานกับโซลูชั่นด้านความปลอดภัยจากเทรนด์ไมโคร ทำให้ได้ระบบป้องกันที่ใช้งานได้ง่าย ออกแบบมาสำหรับลูกค้า DOCOMO ที่ต้องการพัฒนาสภาพแวดล้อมกันทำงานในลักษณะ Infrastructure-as-a-Service (IaaS) โดยเฉพาะ

ก่อนหน้านี้ การติดตั้งโซลูชั่นความปลอดภัยบน DOCOMO Cloud Platform ลูกค้าจะต้องติดตั้งผลิตภัณฑ์ภายนอกด้วยตนเอง แต่บริการใหม่นี้จะทำให้การติดตั้งระบบความปลอดภัยบน DOCOMO Cloud Platformง่ายดายมากยิ่งขึ้น

บริษัทและบริการด้านโทรคมนาคมหลายแห่งต่างวางแผนเตรียมพร้อมกับกระแส 5G มานานแล้ว ตอนนี้จึงเป็นเวลาที่ทำให้มั่นใจได้ว่ามีระบบความปลอดภัยเสริมเข้ามาปกป้องเอนด์พอยต์ที่ใช้งานอยู่ได้อย่างอัจฉริยะในระดับเน็ตเวิร์ก ดังนั้น เทรนด์ไมโครจึงเข้ามาช่วยเหลือทาง DOCOMO เพื่อปกป้องข้อมูลของลูกค้าในรูปแบบที่คุ้มค่า ประหยัดค่าใช้จ่าย และง่ายต่อการติดตั้ง

โดยมีการทดสอบทางเทคนิคในการใช้โซลูชั่น Trend Micro’s Virtual Network Function Suite (VNFS) บนระบบ DOCOMO 5G Open Cloudอย่างเข้มข้นมาตั้งแต่ปีที่แล้ว

นอกจากได้ทดสอบการทำงานบนสภาพแวดล้อมแบบ 5G แล้ว ยังมีการตรวจสอบขยายครอบคลุมไปยังสภาพแวดล้อมการทำงานแบบ 4G ที่มีลูกค้ากำลังใช้งานอยู่เป็นจำนวนมากในปัจจุบันด้วย ซึ่งผลทดสอบที่ได้นี้ทำให้ทาง DOCOMO ลงความเห็นว่าโซลูชั่นของเทรนด์ไมโครทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รับมือกับอันตรายโดยเฉพาะในกลุ่มอุปกรณ์ IoT ได้เป็นอย่างดี จึงตัดสินใจที่จะใช้บริการโซลูชั่นนี้สำหรับเครือข่าย 4G ในฐานะส่วนหนึ่งของ DOCOMO Cloud Platform อย่างเป็นทางการ

“จากความคาดหวัง และศักยภาพของเครือข่าย 5G ที่มีอยู่ทั่วโลกนั้น มาพร้อมกับความกังวลที่ต้องการการปกป้องที่เหนือระดับมากกว่าเดิม การที่มีอุปกรณ์เอนด์พอยต์ที่ทำงานได้อัจฉริยะมากขึ้นนั้นย่อมทำให้เกิดความเสี่ยงทางไซเบอร์เพิ่มขึ้นด้วยในการจัดการ” อะกิฮิโตะ โอมิกาว่า รองประธานบริหารของเทรนด์ไมโครกล่าว “เรายินดีและภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่เทคโนโลยีของเราตอบโจทย์ของผู้นำด้านโทรศัพท์เคลื่อนที่ระดับโลกรายนี้ได้ ซึ่งโซลูชั่นที่เกิดจากความร่วมมือครั้งนี้จะนำไปสู่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานบนคลาวด์ที่ทำงานประสานกับระบบความปลอดภัยที่พร้อมสำหรับอุปกรณ์ IoT ที่ออกแบบมาสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ในยุคปัจจุบันได้”

โซลูชั่นสำหรับระบบโทรคมนาคมของเทรนด์ไมโครอย่าง VNFS นี้ ทำให้ผู้ให้บริการต่าง ๆ ได้ใช้ประโยชน์จากฟังก์ชั่นการทำงานด้านความปลอดภัยที่หลากหลาย ตั้งแต่ระบบป้องกันการบุกรุก, ตัวคัดกรอง URL, และระบบควบคุมแอพพลิเคชั่นเพื่อจำกัดและสกัดกั้นอันตรายทั่วทั้งเครือข่าย โดยไม่กระทบกับประสิทธิภาพของระบบโดยรวม

ในฐานะของโซลูชั่นแบบซอฟต์แวร์นี้ ทำให้สามารถติดตั้งบริการด้านความปลอดภัยได้ภายในไม่กี่นาที เมื่อเทียบกับระบบความปลอดภัยแบบฮาร์ดแวร์ที่ต้องใช้เวลาติดตั้งที่ไซต์งานจริงหลายวัน นอกจากนี้ซอฟต์แวร์ยังสามารถปรับเปลี่ยน, ตั้งค่า, และขยายความครอบคลุมได้อย่างไดนามิกตามความต้องการของลูกค้าด้วย

เทรนด์ไมโครยังมีระบบฐานข้อมูลอันตรายแบบอัจฉริยะคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ที่วิเคราะห์ตัวอย่างอันตรายใหม่ ๆ ได้ถึง 1.5 พันล้านรายการ และสกัดกั้นอันตรายมากถึง 250 ล้านรายการทุก ๆ 24 ชั่วโมง

เกี่ยวกับเทรนด์ไมโคร

เทรนด์ไมโครผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้มุ่งมั่นในการทำให้โลกของเราสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลทางดิจิตอลได้อย่างปลอดภัยมากขึ้นโดยได้พัฒนาโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมใหม่ทั้งระดับคอนซูเมอร์, ระดับธุรกิจ, และหน่วยงานภาครัฐโดยเฉพาะด้านความปลอดภัยสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์, การทำงานบนคลาวด์, เน็ตเวิร์ก, และเอนด์พอยต์ผลิตภัณฑ์ของเราสามารถแบ่งปันข้อมูลด้านความปลอดภัยระหว่างกันได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่องพร้อมรับมือกับอันตรายทางไซเบอร์ได้ด้วยความสามารถในการมองเห็นและตรวจสอบจากศูนย์กลางเพื่อให้ปกป้องระบบโดยรวมได้ดียิ่งขึ้นและรวดเร็วมากขึ้นด้วยเจ้าหน้าที่มากกว่า 6,000 คนจาก50 ประเทศรวมทั้งเครือข่ายค้นคว้าวิจัยด้านความปลอดภัยที่ถือว่าล้ำหน้าที่สุดในโลกนี้ทำให้เทรนด์ไมโครสามารถช่วยปกป้ององค์กรทั่วโลกให้เชื่อมต่อระหว่างกันได้อย่างปลอดภัย โดยเฉพาะการย้ายระบบขึ้นไปสู่บนคลาวด์สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่www.trendmicro.com

Comments

comments